พื้นฐานของการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
กลไกของการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นวิธีการลงทุนที่ทำการซื้อขายโดยการทำนายราคาของอนาคต การทำธุรกรรมจะถูกดำเนินการตามราคาที่กำหนดในขณะทำสัญญาตามการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด ตัวอย่างเช่น หากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นในอนาคต การซื้อสัญญาน้ำมันดิบจะช่วยให้คุณได้รับกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคา ในทางกลับกัน หากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลง การขายสัญญาน้ำมันดิบจะช่วยให้คุณได้รับกำไรจากการลดลงของราคา
อุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้น
การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีลักษณะที่แตกต่างจากสินทรัพย์การลงทุนทั่วไปเช่น หุ้นหรือพันธบัตร ทำให้ผู้เริ่มต้นอาจพบว่ามีส่วนที่ยากต่อการเข้าใจ เนื่องจากความซับซ้อนของการทำธุรกรรมและศัพท์เฉพาะ การทำธุรกรรมครั้งแรกต้องมีความพร้อมทางจิตใจ นอกจากนี้ การใช้ระบบเลเวอเรจในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอนุญาตให้ทำธุรกรรมขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนที่น้อย แต่ในทางกลับกันก็อาจทำให้ขาดทุนขยายใหญ่ขึ้น จึงทำให้การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ความเสี่ยงของการซื้อขายล่วงหน้า
ความเสี่ยงของตลาดและผลกระทบ
ความเสี่ยงหลักที่สุดในการซื้อขายล่วงหน้าคือการเปลี่ยนแปลงราคาตลาด ตลาดมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยหลายอย่างและยากต่อการทำนาย เช่น หากราคาน้ำมันดิบขึ้นอย่างรวดเร็วหรืออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้น ทำให้เกิดความสูญเสียใหญ่ได้ ดังนั้นเมื่อทำการซื้อขายล่วงหน้า จำเป็นต้องเข้าใจความเสี่ยงของตลาดอย่างเต็มที่และดำเนินมาตรการที่เหมาะสม
ความเสี่ยงของเลเวอเรจ
การซื้อขายเลเวอเรจมักถูกมองว่าเป็นวิธีการลงทุนที่น่าสนใจเพราะสามารถทำธุรกรรมใหญ่ด้วยเงินทุนที่น้อย แต่เลเวอเรจยังมีผลทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เช่น หากใช้เลเวอเรจ 10 เท่า การเปลี่ยนแปลงราคา 1% จะทำให้ขาดทุนหรือกำไร 10% ดังนั้นเมื่อทำการซื้อขายเลเวอเรจ ควรตระหนักถึงความเป็นไปได้ของการขยายขาดทุนและตั้งขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม
ความเสี่ยงของระบบ
การซื้อขายล่วงหน้าทำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงมีความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบหรือการหยุดการซื้อขาย ซึ่งอาจทำให้การซื้อขายถูกขัดจังหวะหรือคำสั่งไม่ถูกดำเนินการอย่างถูกต้อง ดังนั้นเมื่อทำการซื้อขาย ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความเสถียรของแพลตฟอร์มที่ใช้

วิธีการจัดการความเสี่ยงเพื่อบรรเทาความกลัว
การปรับขนาดตำแหน่ง
ขนาดตำแหน่งหมายถึงอัตราส่วนของเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกรรม เพื่อบรรเทาความเสี่ยง การปรับขนาดตำแหน่งให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น การทำธุรกรรมโดยกำหนดขีดจำกัดที่ 10% ของเงินทุน หรือกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ล่วงหน้า จะช่วยหลีกเลี่ยงการขาดทุนใหญ่
การใช้สต็อปโลส
สต็อปโลสออร์เดอร์คือฟังก์ชันที่ทำการสั่งซื้อโดยอัตโนมัติที่ราคาที่ตั้งล่วงหน้า เพื่อป้องกันการขยายขาดทุน การตั้งสต็อปโลสออร์เดอร์และกำหนดจุดตัดขาดทุนล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น หากซื้อฟิวเจอร์สน้ำมันดิบที่ 1 บาร์เรล 50 ดอลลาร์ การตั้งสต็อปโลสออร์เดอร์ที่ 45 ดอลลาร์จะทำให้ขายอัตโนมัติเมื่อราคาน้ำมันถึง 45 ดอลลาร์ และขาดทุนจะถูกจำกัดที่ 5 ดอลลาร์
ความจำเป็นของการเตรียมใจ
การซื้อขายฟิวเจอร์สเป็นวิธีการลงทุนที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงราคาตลาด ทำให้มีความอ่อนไหวต่อผลกระทบทางจิตใจ การขายอย่างรีบเร่งเมื่อขาดทุน หรือเก็บสินทรัพย์ต่อเนื่องเมื่อทำกำไรอาจนำไปสู่ขาดทุนใหญ่ได้ ดังนั้น เมื่อเข้าร่วมการทำธุรกรรม จำเป็นต้องพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจอย่างเยือกเย็นและควบคุมพฤติกรรมที่อารมณ์
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
วิเคราะห์แนวโน้มของตลาด
เพื่อทำการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จำเป็นต้องวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและทำนายแนวโน้มราคาต่อไป การวิเคราะห์ตลาดมีสองวิธี คือ การวิเคราะห์เทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน การวิเคราะห์เทคนิคเป็นวิธีที่ทำนายแนวโน้มราคาต่อไปจากข้อมูลราคาที่ผ่านมาและปริมาณการซื้อขายในรูปแบบของรูปแบบแผนภูมิ ในขณะที่การวิเคราะห์พื้นฐานเป็นวิธีที่วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ เช่น ตัวชี้วัดเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัท เพื่อทำนายแนวโน้มราคาต่อไป
กำหนดกลยุทธ์การซื้อขาย
เมื่อทำการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การวางกลยุทธ์การซื้อขายล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ กลยุทธ์การซื้อขายประกอบด้วยจุดเข้าซื้อ จุดออก การขนาดตำแหน่ง และการจัดการความเสี่ยง การวางกลยุทธ์ช่วยควบคุมพฤติกรรมอารมณ์และทำการซื้อขายอย่างสงบ
ความรู้พื้นฐานเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลว
การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นจำเป็นต้องมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลว ควรมีความรู้พื้นฐานอย่างมั่นคงและฝึกฝนด้วยการซื้อขายจำลอง การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และติดตามข้อมูลตลาดล่าสุดอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ
สรุป: เพื่อเผชิญหน้ากับการซื้อขายล่วงหน้า
การซื้อขายล่วงหน้าคือวิธีการลงทุนที่มีศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงใหญ่พร้อมกัน การเข้าใจและจัดการความเสี่ยงเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จของการซื้อขายล่วงหน้า เตรียมความพร้อมและความรู้อย่างเพียงพอ แล้วเข้าร่วมการซื้อขาย

ต้นกำเนิดและประวัติศาสตร์ของการซื้อขายล่วงหน้า
ประวัติศาสตร์ของการซื้อขายล่วงหน้ามีความยาวนานย้อนกลับไปสู่สมัยก่อนคริสต์ศักราช ในเมโสโปเตเมียโบราณและอียิปต์โบราณ มีการทำธุรกรรมโดยสัญญาจำนวนผลผลิตเกษตรกรรมล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการเก็บเกี่ยว ธุรกรรมเหล่านี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบของการซื้อขายล่วงหน้าสมัยใหม่
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ประเทศอเมริกาและยุโรปเริ่มทำการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าต่าง ๆ เช่น ธัญพืชและผ้าฝ้ายอย่างกระหาย ในศตวรรษที่ 19 ตลาดสินค้าแห่งชิคาโก (CME) ถูกก่อตั้ง การซื้อขายล่วงหน้าถูกจัดระเบียบ ทำให้ความโปร่งใสและประสิทธิภาพของการซื้อขายเพิ่มขึ้น ในศตวรรษที่ 20 การซื้อขายล่วงหน้าของแหล่งพลังงานเช่น น้ำมันดิบและทองคำ รวมถึงโลหะมีค่ามีการพัฒนา
ในปัจจุบัน การซื้อขายล่วงหน้าถูกใช้กับสินทรัพย์หลายประเภท ไม่เพียงแต่สินค้า แต่รวมถึงหุ้น พันธบัตร และเงินตรา การซื้อขายล่วงหน้ามีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินทั่วโลก ช่วยให้นักลงทุนจัดการความเสี่ยงและค้นหาค่าตลาด
มหาวิทยาลัยเซจิโอ: ตลาด รัฐบาล และเงินตราในเมโสโปเตเมียโบราณ
กลไกและประเภทของการซื้อขายล่วงหน้า
การซื้อขายล่วงหน้าคือสัญญาซื้อขายสินค้าหรือสินทรัพย์เฉพาะที่กำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ณ จุดเวลาหนึ่งในอนาคต (วันครบกำหนด) ในการซื้อขายล่วงหน้า การส่งมอบสินค้าหรือสินทรัพย์จริงไม่เกิดขึ้น การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์เมื่อชำระความแตกต่างของราคาในวันครบกำหนด
การซื้อขายล่วงหน้ามีหลายประเภท ประเภทที่เป็นตัวอย่างได้แก่ การซื้อขายล่วงหน้าสินค้า การซื้อขายล่วงหน้าทางการเงิน และการซื้อขายล่วงหน้าตัวชี้วัด
การซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเป็นการซื้อขายล่วงหน้าที่เน้นสินค้าต่าง ๆ เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ และธัญพืช การซื้อขายล่วงหน้าทางการเงินเป็นการซื้อขายล่วงหน้าที่เน้นสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร และเงินตรา การซื้อขายล่วงหน้าตัวชี้วัดเป็นการซื้อขายล่วงหน้าที่เน้นดัชนีราคาหุ้น (เช่น ดัชนี Nikkei 225 ฯลฯ)
ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขายล่วงหน้า
การซื้อขายล่วงหน้าคือวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนสูง การเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการซื้อขายล่วงหน้า และดำเนินการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด จะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากการซื้อขายล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของการซื้อขายล่วงหน้ามีดังนี้
– ด้วยผลกระทบของเลเวอเรจ สามารถทำธุรกรรมใหญ่ด้วยเงินทุนที่น้อย
– สามารถทำการป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคา
– สามารถเลือกเวลาซื้อขายได้อย่างอิสระ
ในทางกลับกัน ข้อเสียของการซื้อขายล่วงหน้ามีดังนี้
– ด้วยผลกระทบของเลเวอเรจ อาจทำให้ขาดทุนขยายตัว
– ความเสี่ยงของตลาดสูงและการทำนายยาก
– มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายและเงินมัดจำ (มาร์จิ้น) เป็นต้น
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายล่วงหน้า
เนื่องจากการซื้อขายล่วงหน้าคือวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง การอ้างอิงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและทำการซื้อขายอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“การซื้อขายล่วงหน้ามีศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงใหญ่พร้อมกัน การเข้าใจความเสี่ยงและดำเนินการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การซื้อขายล่วงหน้าประสบความสำเร็จ”
— T (ผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขายล่วงหน้า)
“การซื้อขายล่วงหน้าต้องวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและทำการทำนายอย่างสำคัญ ใช้การวิเคราะห์เทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อวางกลยุทธ์การซื้อขายและทำการซื้อขายอย่างสงบ”
— D (นักวิเคราะห์การเงิน)

ตัวอย่างการซื้อขายล่วงหน้าที่เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น หากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะขึ้น การซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบจะช่วยให้ได้กำไรจากการขึ้นราคา
สมมุติว่าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ 1 บาร์เรลในราคา 50 ดอลลาร์ แล้วหลังจากหนึ่งสัปดาห์ราคาน้ำมันดิบขึ้นเป็น 55 ดอลลาร์ จะได้กำไร 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แต่หากราคาน้ำมันดิบลดลง จะเกิดขาดทุน
สมมุติว่าราคาน้ำมันดิบลดลงเป็น 45 ดอลลาร์ จะขาดทุน 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การซื้อขายล่วงหน้ามีผลกระทบของเลเวอเรจที่ทำให้กำไรและขาดทุนขยายตัวได้ จึงทำให้การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญมาก
การซื้อขายล่วงหน้าคือวิธีการลงทุนที่มีศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงใหญ่พร้อมกัน
การเข้าใจความเสี่ยงและดำเนินการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ใช้ประโยชน์จากการซื้อขายล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การซื้อขายล่วงหน้าถูกควบคุมโดยแนวโน้มของตลาดอย่างมาก จึงต้องเฝ้าติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง และต้องมีความสามารถในการตัดสินใจอย่างสงบและการจัดการความเสี่ยง
เตรียมความรู้และประสบการณ์อย่างเพียงพอ แล้วเข้าร่วมการซื้อขาย
บทความอ้างอิง