ในการเทรด จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการปรับฐานเป็นแนวคิดที่สำคัญ แต่สำหรับมือใหม่ก็อาจจะเข้าใจยากบ้าง ดังนั้นในบล็อกนี้ เราจะอธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่คำอธิบายพื้นฐานของจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดจากการปรับฐาน วิธีการนำไปใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม วิธีการหาบนชาร์ต เทคนิคการเทรดที่เป็นจริง และเคล็ดลับในการใช้จุดต่ำสุดและจุดสูงสุดจากการปรับฐานอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดจากการปรับฐานอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถระบุจุดเข้าที่แม่นยำยิ่งขึ้นและจัดการความเสี่ยงได้ ทำให้ทักษะการเทรดของคุณพัฒนาขึ้นอย่างมาก
- 1 1. จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการปรับฐานคืออะไร? คำอธิบายพื้นฐานที่เข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่
- 2 2. กฎ 4 ข้อที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม! จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัว
- 3 3. วิธีค้นหาจุดต่ำสุดของการถอยกลับและจุดสูงสุดของการปรับฐานบนกราฟ
- 4 4. เทคนิคการเทรดที่ใช้ได้จริง! จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับ
- 5 5. เคล็ดลับ 3 ข้อในการใช้จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัว
- 6 สรุป
- 7 คำถามที่พบบ่อย
- 8 เว็บไซต์อ้างอิง
1. จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการปรับฐานคืออะไร? คำอธิบายพื้นฐานที่เข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่
จุดต่ำสุดจากการปรับฐาน (oshi yasune) และจุดสูงสุดจากการปรับฐาน (modori takane) เป็นแนวคิดพื้นฐานในการเทรดและการลงทุน สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ถึงจุดราคาที่สำคัญในการเคลื่อนไหวของตลาด แต่ผู้เริ่มต้นจำนวนมากอาจยังไม่เข้าใจความหมายและวิธีการใช้งานอย่างละเอียด
จุดต่ำสุดจากการปรับฐานคืออะไร?
จุดต่ำสุดจากการปรับฐานหมายถึง จุดต่ำสุดที่เกิดขึ้นเมื่อราคาลดลงชั่วคราวในช่วงที่แนวโน้มกำลังขาขึ้น จุดนี้เรียกว่า “การปรับฐาน” ด้วย และทำหน้าที่เป็นแนวรับเมื่อตลาดเริ่มขาขึ้นอีกครั้ง
- ลักษณะเด่น:
- เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้น
- บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
- มีโอกาสสูงที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขาขึ้นถัดไป
จุดสูงสุดจากการปรับฐานคืออะไร?
ในทางตรงกันข้าม จุดสูงสุดจากการปรับฐานหมายถึง จุดสูงสุดที่เกิดขึ้นเมื่อราคาขึ้นชั่วคราวในช่วงที่แนวโน้มกำลังขาลง จุดนี้เรียกว่า “การปรับฐาน” ด้วย และทำหน้าที่เป็นแนวต้านในกระบวนการขาลงต่อไป
- ลักษณะเด่น:
- เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาลง
- บ่งชี้ถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง
- มักเป็นจุดเริ่มต้นของการลดลงของราคาอีกครั้ง
ความสำคัญของจุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการปรับฐาน
การเข้าใจจุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการปรับฐานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลยุทธ์การเทรด การระบุจุดเหล่านี้ช่วยให้ได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้
- การระบุจุดเข้าเทรด: ช่วยให้หาจังหวะซื้อหรือขายในราคาที่ได้เปรียบได้ง่ายขึ้น
- การจัดการความเสี่ยง: ช่วยในการตัดสินใจตั้งจุดตัดขาดทุนที่ระดับราคาใด
- การระบุแนวโน้ม: ช่วยในการประเมินความแข็งแกร่งและความยั่งยืนของแนวโน้ม
วิธีการวิเคราะห์เฉพาะเจาะจง
การค้นหาจุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการปรับฐานบนชาร์ต สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
- การยืนยันแนวโน้ม: ก่อนเทรดทุกครั้ง ต้องเข้าใจแนวโน้มโดยรวม
- การระบุจุดสูงสุดและต่ำสุดล่าสุด: สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาและยืนยันจุดสูงสุดหรือต่ำสุดล่าสุด
- การวาดแนวรับหรือแนวต้าน: ใช้จุดสำคัญเหล่านี้ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต
ดังนั้น จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการปรับฐานจึงเป็นความรู้ที่ขาดไม่ได้สำหรับเทรดเดอร์ การเข้าใจและนำไปใช้จะช่วยให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. กฎ 4 ข้อที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม! จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัว
การทำความเข้าใจจุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มหรือการจับภาพการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างถูกต้อง แนวคิดเหล่านี้มีกฎเฉพาะของตัวเอง และการตระหนักถึงสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่นี่เราจะอธิบายกฎสำคัญ 4 ข้อเกี่ยวกับจุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวอย่างละเอียด
1. ในกราฟ ฝ่ายหนึ่งจะเหนือกว่าอยู่เสมอ
จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวจะมีฝ่ายหนึ่งที่ทำหน้าที่หลักบนกราฟเสมอ ไม่มีทั้งสองอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน และบทบาทนั้นจะเปลี่ยนไปตามแนวโน้มของตลาด ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจจุดนี้ การตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลตลาดล่าสุดเสมอจะช่วยให้คุณเข้าใจการเคลื่อนไหวของจุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวได้อย่างแม่นยำ
2. การสลับบทบาทหลังจากการทะลุ
มีกฎสำคัญว่าหากจุดต่ำสุดของการถอยถูกทะลุ มันจะเปลี่ยนเป็นจุดสูงสุดของการย่อตัว ในทำนองเดียวกัน หากจุดสูงสุดของการย่อตัวถูกทะลุ มันจะทำหน้าที่เป็นจุดต่ำสุดของการถอย การรับรู้การเปลี่ยนบทบาทนี้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินแนวโน้มที่เหมาะสม จำเป็นต้องอ่านจิตวิทยาตลาด
3. การปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด
จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวจะเปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนไหวของตลาด ทุกครั้งที่มีการก่อตัวของจุดสูงสุดหรือต่ำสุดใหม่ จุดต่ำสุดของการถอยหรือจุดสูงสุดของการย่อตัวก็จะอัปเดตตามไปด้วย ดังนั้นเทรดเดอร์จึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง การจับภาพการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างแน่นหนาจะเป็นพลังสำคัญในการวางกลยุทธ์ในอนาคต
4. การยืนยันการทะลุด้วยตัวแท่ง
เมื่อตัดสินแนวโน้ม สิ่งสำคัญคือต้องใช้ตัวแท่งของแท่งเทียนเป็นเกณฑ์ ไม่ใช่ไส้เทียน จุดที่ไส้เทียนยาวเกินตัวแท่งคือจุดทะลุที่แท้จริง การตระหนักถึงจุดนี้อย่างดีจะช่วยให้คุณสามารถประเมินแนวโน้มได้ละเอียดยิ่งกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคทั่วไป
การวิเคราะห์ตลาดโดยตระหนักถึงกฎพื้นฐานเหล่านี้อย่างแน่นหนาจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเทรดได้อย่างมาก จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด และการเชี่ยวชาญสิ่งเหล่านี้จะเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการลงทุน
3. วิธีค้นหาจุดต่ำสุดของการถอยกลับและจุดสูงสุดของการปรับฐานบนกราฟ
การจับจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานได้อย่างแม่นยำเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ ดังนั้น ก่อนอื่นให้เข้าใจแนวคิดพื้นฐาน และเรียนรู้วิธีการตัดสินใจโดยใช้กราฟจริง
1. ตรวจสอบจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดล่าสุด
ขั้นตอนแรกในการค้นหาจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานคือการระบุจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดล่าสุดบนกราฟ จุดต่อไปนี้ให้ความสนใจ
- การเข้าใจรูปแบบกราฟ: เมื่อแนวโน้มชัดเจน จุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดจะเด่นชัด เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยได้
- การบันทึกระดับราคา: จดบันทึกราคาของแต่ละจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด และพิจารณาว่าตำแหน่งใดที่ทำหน้าที่เป็นจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐาน
2. การกำหนดจุดต่ำสุดของการถอยกลับและจุดสูงสุดของการปรับฐาน
ต่อไป ใช้จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดที่ระบุแล้วในการกำหนดจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐาน
- จุดต่ำสุดของการถอยกลับ: ในแนวโน้มขาขึ้น กำหนดจุดต่ำสุดเป็นจุดต่ำสุดของการถอยกลับ นี่เป็นจุดสำคัญที่แสดงถึงพลังของแนวโน้ม
- จุดสูงสุดของการปรับฐาน: ในแนวโน้มขาลง จับจุดสูงสุดเป็นจุดสูงสุดของการปรับฐาน จุดนี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงระดับแนวต้าน
3. การติดตามการเคลื่อนไหวของกราฟ
หลังจากกำหนดจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานแล้ว การมองไปที่การเคลื่อนไหวของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ พิจารณาจุดต่อไปนี้
- การสังเกตการอัปเดตการเคลื่อนไหว: ตามเวลา แนวโน้มจะอัปเดตจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดใหม่หรือไม่ การยืนยันนี้ช่วยให้พิจารณาความเป็นไปได้ที่แนวโน้มตลาดจะเปลี่ยนแปลง
- การยืนยันแนวต้าน: หากเห็นการเคลื่อนไหวที่ทะลุจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐาน อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม ต้องตระหนักถึงแนวโน้มเสมอ
4. การตัดสินใจจากตัวแท่ง
สุดท้าย การตัดสินใจว่าจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานถูกกำหนดอย่างถูกต้องด้วยตัวแท่งจริงเป็นสิ่งสำคัญ หากตัดสินใจจากไส้เทียนเท่านั้น อาจเสี่ยงต่อการเข้าและออกที่ไม่เหมาะสม
- การยืนยันตัวแท่ง: สัญญาณซื้อขายเกิดขึ้นเมื่อราคาจริงทะลุจุดต่ำสุดของการถอยกลับหรือจุดสูงสุดของการปรับฐาน ดังนั้น ให้ยืนยันอย่างละเอียดและใช้ในการตัดสินใจเทรด
ด้วยขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถค้นหาจุดต่ำสุดของการถอยกลับและจุดสูงสุดของการปรับฐานบนกราฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากแตกต่างกันตามกรอบเวลาที่วิเคราะห์ การค้นหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองจึงสำคัญกว่า
4. เทคนิคการเทรดที่ใช้ได้จริง! จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับ
การเข้าใจจุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ ในสถานการณ์การเทรดจริง การนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้อย่างไรคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ด้านล่างนี้คือตัวอย่างเทคนิคการเทรดเฉพาะที่ใช้จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับ
การตั้งจุดเข้า
การกำหนดจุดเข้าด้วยการมองหาจุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับจะมีประสิทธิภาพ เทคนิคเฉพาะมีดังนี้:
- การเข้าซื้อที่จุดต่ำสุดจากการปรับฐาน
– เมื่อตลาดกำลังก่อตัวเป็นจุดต่ำสุดจากการปรับฐาน มักจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ ในกรณีนี้ ให้วางสต็อปลอสต่ำกว่าจุดต่ำสุดจากการปรับฐานเล็กน้อย และเข้าซื้อเพื่อหวังการเด้งขึ้น - การเข้าขายที่จุดสูงสุดจากการถอยกลับ
– เมื่อตลาดก่อตัวเป็นจุดสูงสุดจากการถอยกลับมากเกินไป จะทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ในกรณีนี้ ให้วางสต็อปลอสเหนือจุดสูงสุดจากการถอยกลับเล็กน้อย และเข้าขายเพื่อหวังการปรับตัวลง
กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม
การใช้จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับเพื่อขึ้นเรือกับแนวโน้มก็เป็นกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเช่นกัน เมื่อแนวโน้มแข็งแกร่ง จุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับจะถูกอัปเดตขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แนวทางดังต่อไปนี้จึงเป็นไปได้:
- การเข้าตามแนวโน้ม
- ในแนวโน้มขาขึ้น ให้เข้าซื้อต่อเนื่องเมื่อทะลุจุดต่ำสุดจากการปรับฐาน และเพิ่มตำแหน่งซื้อใหม่ทุกครั้งที่จุดต่ำสุดจากการปรับฐานถูกอัปเดต
- ข้อควรระวังในการเล่นสวนแนวโน้ม
- ตราบใดที่จุดสูงสุดจากการถอยกลับไม่ถูกทะลุอย่างชัดเจน การเล่นสวนแนวโน้มควรหลีกเลี่ยงจะปลอดภัยกว่า ในช่วงที่ตลาดไม่แน่นอน จุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับอาจกลายเป็นกับดักแทน ดังนั้นจึงต้องใช้การตัดสินใจอย่างเยือกเย็น
การจัดการการปิดกำไรและสต็อปลอส
ความสำเร็จในการเทรดต้องอาศัยการตั้งการปิดกำไรและสต็อปลอสที่จำเป็น
- จุดปิดกำไร
- หลังจากเข้าแล้ว ให้พิจารณาจุดปิดกำไรถัดไปตามตำแหน่งของจุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับ เช่น ในแนวโน้มขาขึ้น หากจุดต่ำสุดจากการปรับฐานถูกอัปเดต เมื่อตลาดถอยกลับมาถึงระดับนั้น ให้ถือเป็นเวลาที่เหมาะสมในการล็อกกำไร
- ความสำคัญของสต็อปลอส
- สต็อปลอสมีความสำคัญในการจัดการความเสี่ยง การตั้งค่าอย่างเหมาะสมโดยอ้างอิงจากจุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับจะช่วยหลีกเลี่ยงการขาดทุนครั้งใหญ่ได้
กลยุทธ์การรวม
การรวมจุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยสร้างกลยุทธ์การเทรดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เช่น:
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
- เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทับซ้อนกับจุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับ ระดับนั้นจะทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
- RSI (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์)
- การรวม RSI ที่ถึงระดับขายมากเกินไปหรือซื้อมากเกินไปกับจุดต่ำสุดจากการปรับฐานหรือจุดสูงสุดจากการถอยกลับ จะช่วยให้ได้จุดเข้าที่เชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การนำเทคนิคการเทรดที่ใช้จุดต่ำสุดจากการปรับฐานและจุดสูงสุดจากการถอยกลับมาปรับใช้ จะช่วยให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
5. เคล็ดลับ 3 ข้อในการใช้จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัว
จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวเป็นองค์ประกอบสำคัญในการวางกลยุทธ์การเทรด แต่เพื่อให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเข้าใจจุดสำคัญหลายประการ ในที่นี้ เราจะแนะนำเคล็ดลับสามข้อเพื่อใช้เทคนิคเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
กำหนดจุดเริ่มต้นให้ชัดเจน
เมื่อเริ่มต้นการเทรด การเข้าใจ “จุดเริ่มต้น” ของจุดต่ำสุดของการถอยหรือจุดสูงสุดของการย่อตัวให้ถูกต้องนั้นสำคัญยิ่ง หากมีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน จะช่วยให้จับกระแสการเทรดได้ง่ายขึ้นและลดความสับสนได้ ขั้นตอนเฉพาะคือดังนี้
- ระบุจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดล่าสุด。
- ตั้งจุดต่ำสุดของการถอยหรือจุดสูงสุดของการย่อตัวจากเกณฑ์นั้น และติดตามแนวโน้มของตลาด
ด้วยวิธีนี้ การกำหนดจุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์การเทรดจะทำให้การตัดสินใจในอนาคตราบรื่นยิ่งขึ้น
ตระหนักถึงกรอบเวลา
ขั้นตอนถัดไปคือต้องตระหนักถึงกรอบเวลาให้ดี จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวจะเปลี่ยนแปลงตามความผันผวนของตลาด ดังนั้นจึงสำคัญที่จะตรวจสอบเสมอว่าจุดเหล่านั้นถูกอัปเดตเมื่อใด จุดที่ควรระวังมีดังนี้
- ราคาใดที่ถูกทะลุเมื่อใดให้บันทึกไว้
- ให้ความสนใจกับสถานะของชาร์ตเมื่อมีการอัปเดต
การตรวจสอบตามเวลาแต่ละชั่วโมงจะช่วยให้ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของจุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวได้อย่างถูกต้อง
มุ่งเน้นเฉพาะจุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัว
หนึ่งในกับดักที่เทรดเดอร์หลายคนตกคือการพิจารณาองค์ประกอบอื่นมากเกินไป ซึ่งนำไปสู่ความสับสน หากพิจารณาคลื่นหรือแนวโน้มพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาดจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรลองใช้วิธีการดังต่อไปนี้
- ผู้เริ่มต้นให้มุ่งเน้นที่จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัว และติดตามแนวโน้มราคาอย่างเรียบง่าย
- เมื่อมีความมั่นใจแล้ว ค่อยพิจารณาองค์ประกอบอื่นในการตัดสินใจ และเปลี่ยนไปสู่การวิเคราะห์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
วิธีนี้เริ่มต้นด้วยการมุ่งเน้นที่เรียบง่าย จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่การวิเคราะห์ที่หลากหลายมุมมอง ซึ่งคาดว่าจะช่วยพัฒนาทักษะการเทรดได้
การปฏิบัติตามสามจุดนี้จะช่วยให้ใช้จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการย่อตัวได้อย่างมีกลยุทธ์ และนำไปสู่ความสำเร็จในการเทรดของคุณ
สรุป
จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการกลับตัวเป็นแนวคิดที่สำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ การเข้าใจจุดเหล่านี้อย่างถูกต้องและนำไปใช้อย่างแม่นยำจะช่วยเพิ่มความแม่นยำของกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมาก ตั้งแต่พื้นฐานการวิเคราะห์ชาร์ตไปจนถึงวิธีการเข้าเทรดและการจัดการความเสี่ยง การใช้จุดต่ำสุดของการถอยและจุดสูงสุดของการกลับตัวอย่างชำนาญจะเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จ นักเทรดมือใหม่ก็สามารถอ้างอิงเนื้อหาในบล็อกนี้เพื่อพัฒนาทักษะการเทรดของตนเองอย่างมั่นคง
คำถามที่พบบ่อย
ความแตกต่างระหว่างจุดต่ำสุดของการปรับฐานและจุดสูงสุดของการปรับฐานคืออะไร?
จุดต่ำสุดของการปรับฐานคือการลดลงชั่วคราวในแนวโน้มขาขึ้น ส่วนจุดสูงสุดของการปรับฐานคือการเพิ่มขึ้นชั่วคราวในแนวโน้มขาลง อันแรกทำหน้าที่เป็นแนวรับ และอันหลังทำหน้าที่เป็นแนวต้าน
จะหาจุดต่ำสุดของการปรับฐานหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานได้อย่างไร?
ระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดล่าสุดในกราฟ แล้วกำหนดจุดต่ำสุดของการปรับฐานและจุดสูงสุดของการปรับฐานภายในนั้น นอกจากนี้ ให้สังเกตการอัปเดตจุดต่ำสุดของการปรับฐานหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานตามเวลาที่ผ่านไป เพื่ออ่านการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
จะนำจุดต่ำสุดของการปรับฐานหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานไปใช้ในการเทรดอย่างไร?
สามารถใช้จุดต่ำสุดของการปรับฐานเพื่อตั้งตำแหน่งซื้อ และใช้จุดสูงสุดของการปรับฐานเพื่อตั้งตำแหน่งขาย นอกจากนี้ การติดตามการอัปเดตของจุดต่ำสุดของการปรับฐานหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานจะช่วยให้สามารถใช้กลยุทธ์การเทรดที่สอดคล้องกับแนวโน้มได้
เคล็ดลับในการใช้จุดต่ำสุดของการปรับฐานหรือจุดสูงสุดของการปรับฐานคืออะไร?
สำคัญคือต้องกำหนดจุดเริ่มต้นของจุดต่ำสุดของการปรับฐานและจุดสูงสุดของการปรับฐานให้ชัดเจน สังเกตการอัปเดตโดยคำนึงถึงกรอบเวลา และมุ่งเน้นไปที่จุดต่ำสุดของการปรับฐานและจุดสูงสุดของการปรับฐานโดยไม่ให้ปัจจัยอื่นๆ มารบกวน
เว็บไซต์อ้างอิง
ダウ理論における押し安値と戻り高値について初心者がつまずきやすいポイントを図解入りで解説しています。本記事で説明するシン…
「押し安値」「戻り高値」は、トレンド判断に重宝する上に、多くのトレーダーがトレードするために注目する価格帯になる事も多い…