- 1 1. เริ่มต้น
- 2 2. FX Holy Grail คืออะไร? ความหมายและพื้นหลัง
- 3 3. มี “ศีรษะ” ใน FX หรือไม่?
- 4 4. จุดร่วมของผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จ
- 5 5. วิธีการสร้างกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพ
- 6 6. จุดอันตรายและข้อควรระวังในการค้นหาตำนานศิลป์ FX
- 7 7. สรุป
- 8 เว็บไซต์อ้างอิง
1. เริ่มต้น
FX(การซื้อขายเงินตราต่างประเทศด้วยเงินมาร์จิ้น)เป็นตลาดใหญ่ที่นักลงทุนทั่วโลกเข้าร่วม มีผู้คนจำนวนมากที่ตามหากำไร ในหมู่นี้โดยเฉพาะนักเริ่มต้นและระดับกลาง คำว่า「พระมงกุฎ」ได้รับความสนใจมาก คำว่า「พระมงกุฎ」มักใช้เพื่อหมายถึงกลยุทธ์หรือวิธีการเทรดที่ชนะได้เสมออย่างสมบูรณ์ แต่จริง ๆ แล้วมีสิ่งเช่นนั้นหรือไม่?
บทความนี้จะสำรวจนิยามและพื้นหลังของ「พระมงกุฎ」ใน FX และสำรวจว่ามันเป็นไปได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังเรียนรู้วิธีการและแนวคิดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ และให้คำแนะนำเฉพาะเพื่อค้นหาวิธีการเทรดที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้เริ่มต้น นี่เป็นขั้นตอนแรกเพื่อทำความเข้าใจความหมายแท้จริงของคำว่า「พระมงกุฎ」และได้รับความรู้ที่ถูกต้อง สำหรับผู้ระดับกลาง นี่ก็เป็นโอกาสในการประเมินสไตล์การเทรดของตนเองและเติบโตต่อไป
2. FX Holy Grail คืออะไร? ความหมายและพื้นหลัง
คำว่า “Holy Grail” มาจากตำนานคริสต์ศาสนา แปลว่าตำนานแก้วศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) แก้วนี้เป็นสัญลักษณ์ของการรักษาทุกอย่างและทำให้เกิดอัศจรรย์ตลอดมา ตำนานนี้ได้เปลี่ยนเป็นสำนวนในยุคปัจจุบันเพื่อหมายถึง “วิธีแก้ปัญหาสุดยอด” หรือ “คำตอบที่สมบูรณ์แบบ”
ทำไม “Holy Grail” ถึงได้รับความสนใจ?
จิตใจที่ต้องการทำกำไรง่าย
การเทรด FX มีโอกาสทำกำไรใหญ่ในระยะสั้น ดังนั้นผู้เริ่มต้นมักจะมองหาวิธีที่ “ทำกำไรง่าย” ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แนวคิด “Holy Grail” มีเสียงที่ดึงดูดและกระตุ้นความคาดหวังได้ง่าย
ยุคข้อมูลมากเกินไป
บนอินเทอร์เน็ตมีเทคนิคและเครื่องมือการเทรดมากมาย ข้อมูลเหล่านี้มักอ้างว่า “เทคนิคนี้คือที่สุด” ซึ่งทำให้แรงจูงใจในการค้นหา Holy Grail เพิ่มขึ้น
ความกังวลต่อความไม่แน่นอน
ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงเสมอและมีความไม่แน่นอน หลายคนมักจะพยายามหาวิธี “มาจากเวทมนตร์” ที่แก้ปัญหาทุกอย่างเพื่อบรรเทาความกังวล
ตำแหน่งของ “Holy Grail” ในตลาด FX จริง ๆ
จริง ๆ แล้วไม่มีเทคนิคไร้ข้อบกพร่องที่เรียกว่า “Holy Grail” ในตลาด FX ตลาดได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ การเมือง จิตใจ ฯลฯ ทำให้ไม่มีวิธีใดที่ชนะได้เสมอไป แต่กระบวนการค้นหา “Holy Grail” ช่วยให้เทรดเดอร์ได้สะสมประสบการณ์และสร้างวิธีและกลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวเองได้
3. มี “ศีรษะ” ใน FX หรือไม่?
ในโลกของ FX การมองหา “ศีรษะ” ถือเป็นเส้นทางที่หลายเทรดเดอร์ต้องผ่านอย่างน้อยครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คำตอบที่เป็นจริงต่อคำถามว่า “มีศีรษะใน FX หรือไม่?” เกือบทุกผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์สรุปว่า “ไม่มี” เราจะอธิบายเหตุผลด้านล่างนี้
เหตุผลที่ไม่มีวิธีการเทรดที่สมบูรณ์แบบ
ความผันผวนของตลาด
ตลาดเงินตราต่างประเทศเคลื่อนไหวตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น การประกาศตัวชี้วัดเศรษฐกิจและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ แม้วิธีหนึ่งจะทำงานได้ในสภาพตลาดเฉพาะ แต่ในสถานการณ์ที่ต่างกันมักจะไม่สามารถใช้ได้
ลักษณะเชิงความน่าจะเป็น
การเทรดต่างจากการพนัน แต่ทุกวิธีขึ้นอยู่กับ ‘อัตราการชนะ’ ซึ่งหมายความว่าทุกวิธีมีโอกาสชนะและแพ้ร่วมกัน
ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละเทรดเดอร์
แม้วิธีการเทรดจะยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกเทรดเดอร์ ความแตกต่างในความทนทานต่อความกดดันทางจิตใจและระดับความยอมรับความเสี่ยงจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลลัพธ์
ความเสี่ยงของการตามหา “ศีรษะ”
การเสียเงินทุนและเวลา
เมื่อพยายามตามหา ‘ศีรษะ’ และทดลองวิธีต่าง ๆ ทีละขั้นตอน จะพบว่ามีกรณีที่เสียเงินทุนและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์บ่อยครั้ง
อุปสรรคต่อการเรียนรู้
เมื่อใส่ใจในการค้นหา ‘ศีรษะ’ มากเกินไป กระบวนการเรียนรู้พื้นฐานตลาดและทักษะการเทรดมักจะถูกละเลย
ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์
การพยายามหาวิธีที่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาดซ้ำ ๆ จะทำให้สะสมความเครียดทางอารมณ์และอาจทำให้ไม่สามารถตัดสินใจอย่างเยือกเย็นได้
สิ่งที่ควรมุ่งหมายแทน “ศีรษะ”
เพื่อความสำเร็จในการเทรด FX สิ่งสำคัญคือการทิ้งความฝันของ ‘ศีรษะ’ และตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงและเหมาะกับตัวเอง การใส่ใจในจุดสำคัญต่อไปนี้จะช่วยสร้างสไตล์การเทรดที่สะสมกำไรอย่างมั่นคง
- ทำการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
จำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งให้อยู่ในระดับ 1–2% ของเงินทุน เพื่อป้องกันการขาดทุนใหญ่ - ให้ความสำคัญกับอัตราส่วนรางวัลความเสี่ยงมากกว่าความสำเร็จ
แม้อัตราการชนะจะ 50% แต่ถ้าอัตราส่วนรางวัลความเสี่ยง (กำไรต่อขาดทุน) เป็น 2:1 ขึ้นไป ก็สามารถทำกำไรรวมได้ - ค้นหาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง
เมื่อทดลองวิธีหลายแบบ เลือกวิธีที่ตรงกับลักษณะนิสัยและไลฟ์สไตล์ของคุณ
4. จุดร่วมของผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จ
ในตลาด FX ผู้เทรดที่ทำกำไรอย่างต่อเนื่องมีจุดร่วมบางประการ จุดร่วมเหล่านี้ไม่ได้เป็นการตามหาผ้าแก้วศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นการปรับแต่งการเทรดด้วยวิธีที่เป็นจริง ในส่วนนี้จะอธิบายลักษณะและวิธีปฏิบัติของผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จอย่างละเอียด
1. การจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน
ลักษณะสำคัญของผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จคือการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด วิธีการเฉพาะตัวต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง
- กำหนดขอบเขตการยอมรับการขาดทุน
จำกัดการขาดทุนที่ยอมรับได้ต่อการเทรดหนึ่งครั้งเป็น 1–2% ของทุนทั้งหมด เพื่อป้องกันการขาดทุนใหญ่และรักษาทุนได้ - ตั้งค่าตำแหน่งตัดขาดทุนล่วงหน้า
โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนล่วงหน้าโดยไม่ถูกกระทบอารมณ์ จะช่วยลดการขาดทุนให้ต่ำที่สุด
2. การเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จทบทวนการเทรดที่ผ่านมาและปรับปรุงกลยุทธ์ของตนอย่างต่อเนื่อง
- บันทึกการเทรด
บันทึกเหตุผลการเข้าซื้อขาย ผลลัพธ์ และจุดปรับปรุงของแต่ละการเทรด เพื่อทำความเข้าใจจุดอ่อนของตนเอง - เข้าใจแนวโน้มตลาด
ตรวจสอบข่าวเศรษฐกิจล่าสุดและแนวโน้มตลาด พร้อมเตรียมพร้อมตอบสนองอย่างยืดหยุ่น
3. วิธีการเทรดที่สอดคล้องกัน
ผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จเลือกวิธีการเฉพาะและพัฒนาต่อเนื่องในระยะยาว ไม่เปลี่ยนวิธีบ่อย ๆ แต่ใช้กลยุทธ์ที่สอดคล้องกันเพื่อหาผลลัพธ์
- เน้นตัวชี้วัดเทคนิคเฉพาะ
เลือกตัวชี้วัดเช่น RSI, MACD, เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เชื่อถือได้และศึกษาลึกซึ้ง - ให้ความสำคัญกับวิธีการที่เรียบง่าย
เข้าใจว่าวิธีที่เรียบง่ายและทำได้ง่ายกว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า
4. การควบคุมอารมณ์
การเทรดที่มีอารมณ์ตามความผันผวนของตลาดเป็นศัตรูใหญ่ของความสำเร็จ ผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จให้ความสำคัญกับการรักษาความสงบ
- ปรับขนาดตำแหน่ง
โดยไม่รับตำแหน่งใหญ่ ลดผลกระทบจากอารมณ์ให้ต่ำที่สุด - ปฏิบัติตามแผนการเทรด
หลีกเลี่ยงการเทรดที่อยู่นอกแผนและดำเนินการตามกลยุทธ์ที่วางไว้ล่วงหน้า
5. มีมุมมองระยะยาว
ผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ยึดติดกับกำไรขาดทุนระยะสั้น แต่ให้ความสำคัญกับกำไรระยะยาว
- ให้ความสำคัญกับการเติบโตของเส้นกำไรขาดทุน
มุ่งหวังให้กำไรรวมเป็นแนวโน้มขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่าการชนะหรือแพ้ระยะสั้น - ใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้น
โดยการนำกำไรกลับไปลงทุน ทำให้ทุนเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
5. วิธีการสร้างกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อความสำเร็จใน FX จำเป็นต้องสร้างกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับตัวเอง กระบวนการนี้ไม่เพียงแค่เลียนแบบกลยุทธ์ของผู้อื่น แต่ต้องค้นหาวิธีที่ตรงกับบุคลิกและเป้าหมายของตนเอง ด้านล่างนี้จะอธิบายขั้นตอนเฉพาะเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
1. กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน
เริ่มแรก การกำหนดเป้าหมายการเทรดอย่างชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ กำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว แล้วปรับกลยุทธ์ตามนั้น
- เป้าหมายระยะสั้น: เช่น ตั้งเป้าหมายกำไร 3% ภายใน 1 เดือน
- เป้าหมายระยะยาว: เพิ่มทุน 20% ภายใน 1 ปี
2. เลือกการวิเคราะห์เทคนิคัล
ในการเทรด FX การวิเคราะห์เทคนิคัลมีบทบาทสำคัญ เลือกตัวชี้วัดที่ใช้งานง่ายจากตัวเลือกด้านล่าง
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA)
เป็นตัวชี้วัดที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพในการจับแนวโน้ม ใช้กลยุทธ์ “กัลด์ครอส” ที่ใช้การตัดกันของช่วงสั้น (10 วัน) และช่วงยาว (50 วัน) เป็นที่นิยม - RSI (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์)
ช่วยตรวจสอบสภาพซื้อเกินหรือขายเกิน การตั้งเกณฑ์ซื้อเมื่อ 30 หรือน้อยกว่า และขายเมื่อ 70 หรือน้อยกว่าเป็นวิธีที่ดี - MACD (วิธีการหักล้างและขยายค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)
เป็นตัวชี้วัดวัดพลังและทิศทางของแนวโน้ม กลยุทธ์ที่ใช้การตัดกันได้รับความนิยมจากนักเทรดหลายคน
3. ทำการตรวจสอบย้อนหลัง (แบ็คทดสอบ)
เพื่อยืนยันว่ากลยุทธ์ที่เลือกทำงานจริง จำเป็นต้องทำการทดสอบด้วยข้อมูลย้อนหลัง ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ดึงข้อมูลตลาดย้อนหลังจากแพลตฟอร์มการเทรด
- ใช้ตัวชี้วัดและเงื่อนไขที่เลือกทำการเทรดจำลอง
- คำนวณอัตราการชนะและอัตราตอบแทนต่อความเสี่ยง เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์
4. ปฏิบัติด้วยการเทรดจำนวนเล็ก
เมื่อยืนยันว่ามีประสิทธิภาพจากแบ็คทดสอบแล้ว ทำการเทรดจำนวนเล็กในตลาดจริง สิ่งนี้ช่วยให้ทดลองกลยุทธ์แบบเรียลไทม์พร้อมกับสัมผัสผลกระทบทางจิตใจ
- ข้อดีของการเทรดจำนวนเล็ก
ลดความเสี่ยงให้ต่ำที่สุดพร้อมทั้งสะสมประสบการณ์จริง เช่น เริ่มจากหน่วยเล็กสุด 0.01 ล็อตเป็นวิธีที่ดี
5. ใช้ฟีดแบ็กเพื่อปรับปรุง
ทบทวนผลการเทรดและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
- บันทึกข้อมูล
บันทึกเหตุผลการเข้าซื้อ ผลลัพธ์ กำไรขาดทุน และความเคลื่อนไหวของอารมณ์ ช่วยทำให้จุดปรับปรุงชัดเจนขึ้น - ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม
จำเป็นต้องปรับเงื่อนไขและตัวชี้วัดเล็กน้อยตามความผันผวนและแนวโน้มของตลาด
6. ให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย
ถ้ากลยุทธ์ซับซ้อนเกินไป จะทำให้การดำเนินการยากขึ้นและอาจเกิดข้อผิดพลาดเพิ่มขึ้น ผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จมักสร้างกฎที่เรียบง่ายและชัดเจน
6. จุดอันตรายและข้อควรระวังในการค้นหาตำนานศิลป์ FX
นักเทรดหลายคนมองหาวิธีการเทรดที่สมบูรณ์แบบที่เรียกว่า “ตำนานศิลป์” แต่ในกระบวนการนั้นมักจะตกเป็นอันตราย จุดอันตรายนี้มักทำให้พวกเขาเสียความหมายของการเทรดและห่างไกลจากเส้นทางสู่ความสำเร็จ ในส่วนนี้เราจะอธิบายจุดอันตรายของการค้นหาตำนานศิลป์และข้อควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยง
หลักจุดอันตรายหลักในการค้นหาตำนานศิลป์
การเสียเงินทุนและเวลา
การค้นหาตำนานศิลป์โดยการทดลองวิธีใหม่ ๆ ทีละหลาย ๆ ครั้งไม่เพียงแต่ทำให้สูญเสียเงินทุนโดยไม่มีประโยชน์ แต่ยังทำให้เสียเวลาในการเรียนรู้และปฏิบัติ
โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าบ่อยครั้งทุกครั้งที่ทดลองวิธี จะทำให้เกิดสไตล์การเทรดที่ไม่สอดคล้องกัน
การมองข้ามการเปลี่ยนแปลงของตลาด
ตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นการเข้าใจผิดว่าเทคนิคที่ทำงานชั่วคราวเป็นตำนานศิลป์และพยายามใช้ในทุกสถานการณ์เป็นอันตราย
การเพิ่มขึ้นของการเทรดแบบอารมณ์
ความหงุดหงิดที่ไม่สามารถค้นหาตำนานศิลป์ได้ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเทรดโดยไม่วางแผนหรือเปิดตำแหน่งใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถตัดสินใจอย่างเย็นชาได้
การพึ่งพาวิธีการของผู้อื่นเกินไป
การนำวิธีการที่ผู้อื่นประสบความสำเร็จมาใช้โดยตรงอาจไม่สำเร็จได้ เนื่องจากการเทรดได้รับอิทธิพลจากความเสี่ยงที่ยอมรับได้และบุคลิกภาพของแต่ละคน ดังนั้นวิธีที่ไม่เหมาะกับตัวเองมักจะทำให้เกิดผลลบ
ข้อควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการค้นหาตำนานศิลป์
ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง
อย่ามุ่งหวังวิธีที่สมบูรณ์แบบ แต่ตั้งเกณฑ์ที่เป็นจริง เช่น “อัตราการชนะ 50% และอัตราส่วนรางวัลความเสี่ยง 2:1” เพื่อให้สามารถตั้งเป้าหมายที่ไม่เกินความสามารถและทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
เข้าใจสาระสำคัญของการเทรด
แทนที่จะค้นหาตำนานศิลป์ ให้มุ่งเน้นการเรียนรู้การจัดการความเสี่ยง การควบคุมอารมณ์ และพื้นฐานของตลาด ซึ่งเป็นฐานของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ
รักษาความสอดคล้องของสไตล์การเทรด
การใช้วิธีที่เลือกแล้วอย่างต่อเนื่องและตรวจสอบผลลัพธ์เป็นสิ่งสำคัญ หากเปลี่ยนวิธีบ่อย ๆ จะทำให้การสะสมและวิเคราะห์ข้อมูลยากขึ้น
ทำให้การจัดการความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
อย่าทำการเทรดที่เสี่ยงโดยการค้นหาตำนานศิลป์ แต่ให้ให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงเป็นอันดับแรก ซึ่งจะช่วยป้องกันการขาดทุนใหญ่
ทำซ้ำการเรียนรู้และการปรับปรุง
ตั้งเป้าหมายที่การเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ตำนานศิลป์ การบันทึกการเทรดและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของตัวเองเป็นประจำเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จ
7. สรุป
คำว่า “ศีรษะ” ในการซื้อขาย FX สื่อถึงกลยุทธ์หรือวิธีการเทรดที่สมบูรณ์แบบและสามารถชนะได้เสมอ อย่างไรก็ตาม ตามที่อธิบายในส่วนก่อนหน้า ในความเป็นจริงไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ศีรษะ” แต่การค้นหา “ศีรษะ” ยังเป็นประสบการณ์และความรู้ที่สำคัญต่อการเติบโตของนักเทรด
3. สรุปประเด็นสำคัญของบทความ
- ศีรษะคืออะไร?
ศีรษะเป็นความฝัน และเนื่องจากความผันผวนของตลาดและลักษณะของทฤษฎีความน่าจะเป็น เราต้องเข้าใจว่าทุกวิธีการไม่สามารถชนะได้ 100% - คุณลักษณะร่วมของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ
นักเทรดที่ประสบความสำเร็จทำให้ได้กำไรระยะยาวโดยการจัดการความเสี่ยง ควบคุมอารมณ์ และรักษาวิธีการที่สม่ำเสมอ - วิธีสร้างกลยุทธ์เทรดที่มีประสิทธิภาพ
การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมกับตัวเอง การวิเคราะห์เทคนิค และการทดสอบย้อนหลังเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวิธีการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน - อุปสรรคและข้อควรระวังในการค้นหา “ศีรษะ”
การตามหาศีรษะควรมีความคาดหวังที่เป็นจริงเพื่อไม่ให้เสียเงินและเวลา
3. ข้อความสำหรับผู้อ่าน
กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดคือการสร้างนิสัยการเทรดที่ดี ไม่ใช่การค้นหาวิธีการที่สมบูรณ์แบบ การจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวดและใช้กลยุทธ์ที่สม่ำเสมอในการเผชิญกับตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นฐานรากที่สร้างกำไรระยะยาว
นอกจากนี้ การเทรดไม่เพียงแต่เป็นเทคนิค แต่ยังเป็นกระบวนการที่ต้องเผชิญหน้ากับจิตใจและอารมณ์ของตนเอง การทำอย่างไม่รีบเร่งและมีแผนจะทำให้ทุกคนสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ เส้นทางสู่ความสำเร็จคือการสะสมก้าวต่อก้าว ขอให้คุณใช้บทความนี้เป็นแนวทางเริ่มต้นการเดินทางค้นหา “รูปแบบชนะ” ของคุณเอง
เว็บไซต์อ้างอิง
パンローリング社の書籍「トレードで成功するための「聖杯」はポジションサイズ」のご紹介です。トレードにおけるポジションサイ…
FXで億り人の仲間入りを果たし、トレアイ(トレードアイランド)で大注目を集める兼業トレーダー、ramenKing(ラーメ…