เงินทุนส่วนเกินคืออะไร? อธิบาย FX จัดการความเสี่ยงและคำนวณง่ายสำหรับมือใหม่

※記事内に広告を含む場合があります。
目次

1. บทนำ

ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำการซื้อขาย FX อาจได้ยินคำว่า “เงินประกัน” บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำว่า “เงินประกันส่วนเกิน” หลายคนอาจไม่สามารถนึกภาพออกได้ใช่ไหม ในบทความนี้ เราจะอธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่กลไกพื้นฐานของเงินประกันส่วนเกิน ความสำคัญ และวิธีการนำไปใช้ การจัดการความเสี่ยงที่ขาดไม่ได้สำหรับความสำเร็จในการซื้อขาย FX ก็เป็นเนื้อหาที่สามารถเรียนรู้ได้เช่นกัน จากผู้เริ่มต้นถึงระดับกลาง โปรดอ่านจนจบ

2. เงินมาร์จิ้นคืออะไร? มาทำความเข้าใจกลไกพื้นฐานกัน

ประเภทพื้นฐานของเงินมาร์จิ้น

เงินมาร์จิ้นมีหลายประเภท และจำเป็นต้องเข้าใจบทบาทของแต่ละประเภท

  • เงินฝากหลักประกัน
    คือเงินที่นักลงทุนฝากกับบริษัท FX เงินนี้เป็นทุนเริ่มต้นสำหรับการทำธุรกรรม
  • เงินมาร์จิ้นที่จำเป็น
    คือเงินขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการถือสถานะใหม่ จำนวนเงินจะแตกต่างกันไปตามปริมาณการซื้อขาย คู่สกุลเงิน และเลเวอเรจ
  • เงินมาร์จิ้นที่มีประสิทธิภาพ
    คือจำนวนเงินที่คำนวณจากเงินฝากหลักประกันบวกกำไรขาดทุนที่ประเมินแล้ว จะเปลี่ยนแปลงตามว่าสถานะปัจจุบันกำลังทำกำไรหรือขาดทุน
  • เงินมาร์จิ้นส่วนเกิน
    คือจำนวนเงินที่เหลือหลังหักเงินมาร์จิ้นที่จำเป็นจากเงินมาร์จิ้นที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งจำนวนนี้มาก ยิ่งมีช่องว่างสำหรับทำธุรกรรมใหม่

กลไกของเงินมาร์จิ้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณฝากเงิน 100,000 เยนในบัญชี FX และซื้อ 10,000 ดอลลาร์ (มูลค่า 1 ล้านเยน) เมื่ออัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ = 100 เยน หากเลเวอเรจอยู่ที่ 10 เท่า เงินมาร์จิ้นที่จำเป็นจะเป็น 100,000 เยน หลังจากทำธุรกรรม หากตลาดเคลื่อนไหว เงินมาร์จิ้นที่มีประสิทธิภาพจะเปลี่ยนแปลง และเงินมาร์จิ้นส่วนเกินก็จะเปลี่ยนไปตามนั้น

3. หลักประกันส่วนเกินคืออะไร? วิธีการคำนวณและตัวอย่างเฉพาะ

วิธีการคำนวณ

คุณสามารถคำนวณหลักประกันส่วนเกินได้โดยใช้สูตรการคำนวณต่อไปนี้

หลักประกันส่วนเกิน = หลักประกันที่มีประสิทธิภาพ - หลักประกันที่จำเป็น

ตัวอย่างการคำนวณ

นี่คือตัวอย่างเฉพาะ

  1. หลักประกันที่ฝาก: 1,000,000 เยน
  2. กำไร/ขาดทุนจากการประเมิน: +100,000 เยน
  3. กำไร/ขาดทุนจากสวอป: -50,000 เยน
  4. หลักประกันที่จำเป็น: 500,000 เยน

ในกรณีนี้ หลักประกันที่มีประสิทธิภาพจะถูกคำนวณดังนี้:

หลักประกันที่มีประสิทธิภาพ = หลักประกันที่ฝาก + กำไร/ขาดทุนจากการประเมิน + กำไร/ขาดทุนจากสวอป = 1,000,000 เยน + 100,000 เยน - 50,000 เยน = 1,050,000 เยน

ต่อไป คำนวณหลักประกันส่วนเกิน

หลักประกันส่วนเกิน = หลักประกันที่มีประสิทธิภาพ - หลักประกันที่จำเป็น = 1,050,000 เยน - 500,000 เยน = 550,000 เยน

ในตัวอย่างนี้ หลักประกันส่วนเกินคือ 550,000 เยน ซึ่งเป็นกำลังสำรองสำหรับการทำธุรกรรมใหม่

4. ความสำคัญและบทบาทของเงินทุนส่วนเกิน

การรักษาสภาพคล่องในการเทรด

ยิ่งเงินทุนส่วนเกินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเงินทุนมากสำหรับการเปิดตำแหน่งใหม่ ดังนั้นจึงสามารถทำการเทรดโดยไม่พลาดโอกาสในตลาดได้

การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการตัดขาดทุน

หากเงินทุนส่วนเกินน้อย ในกรณีที่ตลาดผันผวนอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงที่การตัดขาดทุน (การชำระบังคับ) จะถูกเรียกใช้จะสูงขึ้น ดังนั้นจึงสำคัญที่จะรักษาเงินทุนส่วนเกินให้เหมาะสม

ความมั่นคงทางจิตใจ

หากมีเงินทุนส่วนเกินเพียงพอ ความกังวลและความเครียดในการเทรดจะลดลง จากนั้นจะสามารถตัดสินใจอย่างเยือกเย็นได้

5. วิธีการเฉพาะเจาะจงเพื่อเพิ่มเงินทุนส่วนเกิน

การฝากเงินเพิ่มเติมสำหรับเงินทุนประกัน

วิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุดคือการฝากเงินเพิ่มเติมลงในบัญชี FX

  • ข้อดี:
    เงินทุนส่วนเกินจะเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการตัดขาดทุนและสร้างความยืดหยุ่นสำหรับการเทรดใหม่
  • ข้อควรระวัง:
    เป็นวิธีที่จำกัดเฉพาะกรณีที่มีเงินทุนเหลือเฟือ และควรหลีกเลี่ยงการฝากเงินเกินตัว

การปรับขนาดตำแหน่ง

โดยการตรวจสอบตำแหน่งปัจจุบันและลดปริมาณการเทรด สามารถลดเงินทุนประกันที่จำเป็นได้

  • ตัวอย่าง:
    การใช้เลเวอเรจต่ำและเทรดในปริมาณน้อยเพื่อจัดการความเสี่ยง
  • ผลลัพธ์:
    เงินทุนประกันที่จำเป็นจะลดลง ทำให้เงินทุนส่วนเกินเพิ่มขึ้น

หลีกเลี่ยงเลเวอเรจสูง

เลเวอเรจที่สูงจะทำให้สามารถเทรดขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนประกันน้อย แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

  • คำแนะนำสำหรับเลเวอเรจต่ำ:
    การตั้งค่าเลเวอเรจให้ต่ำจะช่วยป้องกันไม่ให้เงินทุนประกันที่จำเป็นสูงเกินไป

การปิดตำแหน่งที่ไม่จำเป็น

โดยการปิดตำแหน่งที่มีขาดทุนลอยตัวมาก สามารถลดเงินทุนประกันที่จำเป็นและฟื้นฟูเงินทุนส่วนเกินได้

  • กรณีตัวอย่าง:
    ในกรณีที่ทิศทางตลาดแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้มาก ให้ยอมรับขาดทุนเพื่อปกป้องเงินทุน

การใช้เครื่องมือเทรดอัตโนมัติ

การใช้เครื่องมือเทรดอัตโนมัติจะช่วยให้สามารถเทรดได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ถูกอารมณ์ครอบงำ

  • ตัวอย่างเฉพาะ:
    การใช้เครื่องมือที่มีฟังก์ชันจัดการความเสี่ยงเพื่อปรับเงินทุนประกันขณะดำเนินการ

6. ความสัมพันธ์ระหว่างเงินประกันส่วนเกินและอัตราส่วนการรักษาเงินประกัน

วิธีการคำนวณอัตราส่วนการรักษาเงินประกัน

อัตราส่วนการรักษาเงินประกันคือตัวชี้วัดที่แสดงว่าเงินประกันที่มีประสิทธิภาพปัจจุบันเทียบเท่ากับเงินประกันที่จำเป็นกี่เท่า สามารถคำนวณได้ด้วยสูตรการคำนวณต่อไปนี้

อัตราส่วนการรักษาเงินประกัน (%) = (เงินประกันที่มีประสิทธิภาพ ÷ เงินประกันที่จำเป็น) × 100

ความสำคัญของอัตราส่วนการรักษาเงินประกัน

  • กรณีที่อัตราส่วนสูง:
    ความเสี่ยงของการตัดขาดทุนต่ำ และมีกำลังเหลือในการเปิดตำแหน่งใหม่
  • กรณีที่อัตราส่วนต่ำ:
    ความเสี่ยงของการตัดขาดทุนสูงขึ้น และการดำเนินการซื้อขายจะยากลำบาก

ความสัมพันธ์ในตัวอย่างจริง

ตัวอย่างเช่น พิจารณาสภาวะต่อไปนี้

  • เงินประกันที่มีประสิทธิภาพ: 120 หมื่นเยน
  • เงินประกันที่จำเป็น: 40 หมื่นเยน

ในกรณีนี้ อัตราส่วนการรักษาเงินประกันจะถูกคำนวณดังนี้

อัตราส่วนการรักษาเงินประกัน = (120 หมื่นเยน ÷ 40 หมื่นเยน) × 100 = 300%

หากอัตราส่วนอยู่ที่ 300% ถือว่าอยู่ในสถานะที่มีเงินประกันส่วนเกินเพียงพอ

7. สรุปและขั้นตอนถัดไป

การทบทวนความสำคัญของเงินทุนส่วนเกิน

  • การรักษาความสามารถในการเทรด: เงินทุนส่วนเกินมากเท่าไร ก็ยิ่งเปิดตำแหน่งใหม่ได้ง่ายขึ้น และไม่พลาดโอกาสในตลาดมากเท่านั้น
  • การจัดการความเสี่ยง: การรักษาเงินทุนส่วนเกินให้เพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดขาดทุนได้อย่างมาก
  • ความมั่นคงทางจิตใจ: การมีเงินทุนที่เหลือเฟือจะช่วยให้สามารถเทรดด้วยความสงบได้

ขั้นตอนถัดไป

  • การทบทวนการเทรด: ตรวจสอบขนาดตำแหน่งปัจจุบันและอัตราส่วนรักษาเงินมาร์จิ้น เพื่อให้การเทรดไม่เกินตัว
  • การศึกษาลึกซึ้ง: เพื่อเพิ่มความรู้เกี่ยวกับเงินทุนส่วนเกินและการจัดการความเสี่ยง โปรดใช้หนังสือ FX ที่น่าเชื่อถือหรือเซมินาร์ออนไลน์
  • การใช้เครื่องมือ: แนะนำให้ลองใช้แพลตฟอร์มการเทรดที่มีเครื่องมือเทรดอัตโนมัติหรือฟังก์ชันจัดการความเสี่ยง

การจัดการเงินทุนส่วนเกินอย่างเหมาะสมคือกุญแจสู่กำไรที่มั่นคงและความสำเร็จในการเทรดระยะยาว

8. FAQ: คำถามที่พบบ่อย

Q1: เงินทุนส่วนเกินจะติดลบได้หรือไม่?

A1: โดยปกติ เงินทุนส่วนเกินจะไม่ติดลบ อย่างไรก็ตาม หากส่วนของทุนต่ำกว่าเงินทุนที่จำเป็น อาจเกิดการตัดขาดทุน (การปิดตำแหน่งโดยบังคับ) โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างรวดเร็ว ต้องระมัดระวัง

Q2: ความแตกต่างระหว่างเงินทุนที่จำเป็นและเงินทุนส่วนเกินคืออะไร?

A2: เงินทุนที่จำเป็นคือเงินทุนขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการถือครองตำแหน่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อขายและเลเวอเรจ ในขณะที่เงินทุนส่วนเกินคือจำนวนเงินที่ได้จากการหักเงินทุนที่จำเป็นออกจากส่วนของทุน ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการเปิดตำแหน่งใหม่

Q3: มีวิธีใดบ้างในการรักษาอัตราส่วนการรักษาเงินทุนให้สูง?

A3: สามารถรักษาอัตราส่วนการรักษาเงินทุนให้สูงได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • ปิดตำแหน่งที่ไม่จำเป็นเพื่อลดเงินทุนที่จำเป็น
  • ฝากเงินทุนเพิ่มเติม
  • ลดปริมาณการซื้อขายเพื่อควบคุมเลเวอเรจ

Q4: เงินทุนส่วนเกินมากทำให้การซื้อขายปลอดภัยหรือไม่?

A4: ใช่ ยิ่งเงินทุนส่วนเกินมากเท่าไหร่ การซื้อขายก็ยิ่งปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างรวดเร็ว สามารถรับมือได้อย่างมีเหลือเฟือ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดขาดทุน

Q5: สามารถตรวจสอบเงินทุนส่วนเกินได้ที่ไหน?

A5: บริษัท FX หลายแห่งสามารถตรวจสอบเงินทุนส่วนเกินได้ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายหรือหน้าจอจัดการบัญชี ซึ่งจะอัปเดตแบบเรียลไทม์ ดังนั้นจึงสำคัญที่จะต้องติดตามอย่างต่อเนื่องแม้ระหว่างการซื้อขาย

เว็บไซต์อ้างอิง

ソニー銀行(ネット銀行)
OANDA FX/CFD Lab-education(オアンダ ラボ)

株価指数CFDの取引を行う際に、どのくらいの資金が必要かをご紹介しています。取引を行う際は、相場が短期的に反対方向に向か…

 

※記事内に広告を含む場合があります。
佐川 直弘: MetaTraderを活用したFX自動売買の開発で15年以上の経験を持つ日本のパイオニア🔧

トレーデンシー大会'15世界1位🥇、EA-1グランプリ準優勝🥈の実績を誇り、ラジオ日経出演経験もあり!
現在は、株式会社トリロジーの役員として活動中。
【財務省近畿財務局長(金商)第372号】に登録
され、厳しい審査を経た信頼性の高い投資助言者です。


【主な活動内容】
・高性能エキスパートアドバイザー(EA)の開発と提供
・最新トレーディング技術と市場分析の共有
・FX取引の効率化と利益最大化を目指すプロの戦略紹介

トレーダー向けに役立つ情報やヒントを発信中!

This website uses cookies.