- 1 1. Stop Hunting ใน FX (การล่า Stop Loss) คืออะไร? สาเหตุที่เกิดขึ้นและวิธีหลีกเลี่ยงอธิบายอย่างละเอียด
- 2 2. การล่า Stop (การล่าตัดขาดทุน) คืออะไร?
- 3 3. สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการล่า Stop
- 4 4. จังหวะที่เสี่ยงถูกโจมตีและช่วงราคา
- 5 5. ตัวอย่างการล่า Stop จริง
- 6 6. ชนิดและลักษณะของการล่า Stop
- 7 7. วิธีหลีกเลี่ยงการล่า Stop ที่แม้แต่มือใหม่ก็ทำได้ (เรียงตามระดับความยากในการปฏิบัติ)
- 8 8. วิธีตรวจจับการล่า stop ใน MT4/MT5
- 9 9. เทคนิคการระบุการล่า Stop ที่ผู้ปฏิบัติจริงใช้
- 10 10. สรุป
- 11 11. คำถามที่พบบ่อย
- 11.1 Q1. การล่า Stop Loss ผิดกฎหมายหรือไม่?
- 11.2 Q2. ระหว่าง FX ในประเทศและ FX ต่างประเทศ อันไหนมีการล่า Stop Loss มากกว่ากัน?
- 11.3 Q3. หากรู้วิธีการล่า Stop Loss จะหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมดหรือไม่?
- 11.4 Q4. สามารถตรวจจับการล่า Stop Loss ด้วย MT4/MT5 ได้หรือไม่?
- 11.5 Q5. มีวิธีตรวจสอบว่าตำแหน่ง Stop Loss ของตัวเองถูกเล็งเป้าหรือไม่?
1. Stop Hunting ใน FX (การล่า Stop Loss) คืออะไร? สาเหตุที่เกิดขึ้นและวิธีหลีกเลี่ยงอธิบายอย่างละเอียด
หากคุณทำการซื้อขาย FX ต่อเนื่อง คุณอาจพบสถานการณ์ที่คำสั่ง Stop Loss ถูกดำเนินการในเวลาที่ไม่คาดคิด และหลังจากนั้นตลาดกลับตัวทันที นักเทรดมือใหม่มักจะสงสัยว่า “ทำไมถึงถูกตัดตรงนี้?” ปัจจัยหนึ่งที่มักถูกกล่าวถึงในปรากฏการณ์นี้คือ “Stop Hunting (การล่า Stop Loss)”
Stop Hunting หมายถึง การแทรกแซงตลาดเพื่อกระตุ้นให้คำสั่ง Stop Loss ที่นักเทรดจำนวนมากตั้งไว้ถูกเรียกใช้งานโดยเจตนา มีกรณีที่นักลงทุนรายใหญ่หรือบางโบรกเกอร์ FX ใช้ทุนและกลไกการ操控ราคาเพื่อทำเช่นนี้ เมื่อ Stop Loss ถูกเรียกใช้งานพร้อมกัน ตลาดจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในทิศทางเดียว จากนั้นกลับตัว ทำให้ฝ่ายที่วางแผนได้กำไร
โดยเฉพาะตลาดอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเทียบกับตลาดหุ้นมีการซื้อขาย 24 ชั่วโมง และสภาพคล่องเปลี่ยนแปลงมากตามช่วงเวลา ดังนั้น ในช่วงเวลาที่ผู้เข้าร่วมตลาดน้อยหรือช่วงราคาเฉพาะ สามารถเคลื่อนไหวราคาได้ด้วยทุนไม่มาก สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ Stop Hunting เกิดขึ้นได้ง่าย
ในบทความนี้ เราจะอธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่กลไกของ Stop Hunting ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นง่าย ตัวอย่างจริง และวิธีหลีกเลี่ยงที่เฉพาะเจาะจง โดยเรียงลำดับ เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และผู้ที่เพิ่งเริ่มทำ FX ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจตัวตนของปรากฏการณ์นี้ และก้าวแรกในการปกป้องทุนจากความสูญเสียที่ไม่จำเป็นกันเถอะ
2. การล่า Stop (การล่าตัดขาดทุน) คืออะไร?
การล่า Stop หมายถึง การเคลื่อนไหวของตลาดในธุรกรรม FX ที่ตั้งใจกระตุ้นให้คำสั่งตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่เทรดเดอร์จำนวนมากตั้งไว้ทำงาน ในภาษาญี่ปุ่นยังเรียกว่า “การล่าตัดขาดทุน” หรือ “การล่า Liquidation” ด้วย
คำสั่งตัดขาดทุนเป็นเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ โดยจะปิดตำแหน่งโดยอัตโนมัติเมื่อขาดทุนสะสมถึงระดับหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ความสูญเสียขยายตัว อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมตลาดบางส่วนอาจใช้ประโยชน์จากระดับราคาที่คำสั่งตัดขาดทุนเหล่านี้รวมตัวกันจำนวนมาก โดยทำให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในเวลาสั้นๆ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง นี่คือที่มาของคำว่า “การล่า” นั่นเอง
ลักษณะเด่นของการล่า Stop คือ ตลาดมักเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในทิศทางเดียว แล้วกลับตัวทันทีในกรณีส่วนใหญ่ สมมติว่าเทรดเดอร์จำนวนมากถือตำแหน่งซื้อ หากระดับตัดขาดทุนรวมตัวกันใกล้จุดต่ำสุดเฉพาะ นักลงทุนรายใหญ่หรือกลุ่มเฉพาะอาจตั้งใจขายเพื่อทะลุระดับราคานั้น ส่งผลให้คำสั่งตัดขาดทุนทำงานแบบลูกโซ่และตลาดร่วงลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแรงกดดันจากการขายคลายตัว ราคาก็อาจเด้งกลับขึ้นอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน
ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ง่ายเนื่องจากโครงสร้างของตลาด FX อัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้รับอิทธิพลเฉพาะจากอุปสงค์และอุปทานเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและจิตวิทยาของผู้เข้าร่วมด้วย โดยเฉพาะระดับราคาที่กลมๆ (เช่น 1 ดอลลาร์ = 150 เยนพอดี) หรือใกล้จุดสูงสุด/ต่ำสุดล่าสุด มักเป็นจุดที่คำสั่งตัดขาดทุนรวมตัวกัน ทำให้ถูกเล็งเป้าได้ง่าย
การล่า Stop ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเสมอไป แต่การ操控ตลาดโดยตั้งใจหรือการเสนอราคาที่ไม่โปร่งใสอาจมีปัญหาทางจริยธรรม
3. สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการล่า Stop
การล่า Stop ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากโครงสร้างของตลาดและรูปแบบพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมตลาด ที่นี่เราจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสองสาเหตุหลัก
3.1 การ操纵ตลาดโดยนักลงทุนรายใหญ่ (กองทุนเฮดจ์)
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีการซื้อขายโดยผู้เข้าร่วมจากทั่วโลก แต่ในนั้นมีนักลงทุนรายใหญ่และกองทุนเฮดจ์ที่มีทุนมหาศาล พวกเขาวิเคราะห์สถานการณ์คำสั่งซื้อขายทั้งหมดของตลาด และระบุช่วงราคาที่มีคำสั่ง Stop Loss รวมกันจำนวนมาก
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าผู้เทรดจำนวนมากตั้งเส้น Stop Loss ไว้ที่ ‘ต่ำกว่าราคาต่ำสุดล่าสุดไม่กี่ pips’ หากพวกเขาส่งคำสั่งขายขนาดใหญ่ไปยังจุดนั้น ราคาจะทะลุระดับนั้นลงไปทันที จากนั้นคำสั่ง Stop Loss ที่รออยู่จะถูกกระตุ้นแบบ连锁 ทำให้แรงกดดันด้านการขายเพิ่มขึ้น ราคาจึงร่วงลงอย่างรวดเร็ว และฝ่ายนักลงทุนรายใหญ่สามารถซื้อคืนที่ราคาต่ำเพื่อทำกำไร
เทคนิคนี้สร้างรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะ คือ การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของราคาและการเด้งกลับอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สภาพคล่องต่ำ หรือหลังจากประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งตลาดมีความหนาบาง ทำให้การ设罠ประสบความสำเร็จได้ง่าย
3.2 การ操纵อัตราแลกเปลี่ยนโดยผู้ประกอบการ FX บางราย
กรณีอีกอย่างคือ การที่ผู้ประกอบการ FX ใช้สถานะตำแหน่งของลูกค้าของตนเอง โดยเฉพาะในผู้ประกอบการบางรายที่ใช้ระบบการซื้อขายแบบตรงข้าม (DD) ซึ่งกำไรขาดทุนของลูกค้าส่งผลโดยตรงต่อกำไรของผู้ประกอบการ จึงมีโอกาสที่พวกเขาจะแสดงราคาที่กระตุ้นให้เกิด Stop Loss
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแสดงราคาที่ไม่เป็นธรรมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอัตราในตลาดอื่นเพื่อขยายสเปรด และทำให้ทะลุเส้น Stop Loss ชั่วคราว วิธีนี้จะทำให้ตำแหน่งของลูกค้าถูกปิดโดยบังคับ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ แน่นอนว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกรายที่ทำเช่นนี้ และในหลายพื้นที่ที่มีกฎระเบียบ จะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ในผู้ประกอบการ FX ต่างประเทศบางรายใช้ระบบ NDD ที่มีความโปร่งใสสูง ซึ่งคำสั่งของลูกค้าจะไหลตรงไปยังตลาด ดังนั้นผู้ประกอบการจึงแทบไม่มีช่องทางในการ操纵ราคา อย่างไรก็ตาม ควรระวังผู้ประกอบการที่ดำเนินงานในพื้นที่ที่มีกฎระเบียบหลวมหรือโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
เบื้องหลังการล่า Stop มีรูปแบบสองแบบ คือ “กลยุทธ์ของนักลงทุนรายใหญ่” และ “การทุจริตของผู้ประกอบการบางราย”
4. จังหวะที่เสี่ยงถูกโจมตีและช่วงราคา
การล่า stop hunting ไม่ได้เกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลาเสมอไป การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมตลาด สภาพคล่อง จุดจิตวิทยา และเงื่อนไขอื่นๆ ที่รวมกันจะทำให้เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ที่นี่เราจะอธิบายจังหวะและช่วงราคาที่ควรระวังเป็นพิเศษอย่างละเอียด
4.1 ก่อนและหลังตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสำคัญ
ช่วงก่อนและหลังการประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสำคัญ เช่น สถิติการจ้างงานหรือการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นช่วงเวลาที่ตลาดเคลื่อนไหวรุนแรงได้ง่าย
ก่อนการประกาศ ปริมาณการซื้อขายจะลดลงเนื่องจากการปรับตำแหน่งเพื่อให้สภาพคล่องต่ำลง ดังนั้น สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ จึงเป็นช่วงที่เคลื่อนไหวตลาดได้ง่าย และการโจมตีที่เล็งเป้าหมาย stop loss จะประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ หลังการประกาศทันที ราคาจะแกว่งไกวรุนแรง ทำให้เกิดการตัดขาดทุนตามด้วยการกลับตัวอย่างรวดเร็วบ่อยครั้ง
4.2 ช่วงเวลาที่สภาพคล่องต่ำ
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเปิด 24 ชั่วโมง แต่ปริมาณการซื้อขายจะแตกต่างกันมากตามช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงเช้าตรู่ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น (หลังตลาด NY ปิด) หรือช่วงวันหยุดและปีใหม่ จะมีผู้เข้าร่วมน้อย และเงินทุนเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ราคาเคลื่อนไหวได้ง่าย
ในช่วงเวลาดังกล่าว ความเสี่ยงของการล่า stop hunting จะเพิ่มขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงไม่กี่ pips ก็สามารถถึงระดับ stop loss ได้
4.3 ราคากลมๆ (ระดับราคาที่เป็นจุดสำคัญ)
ช่วงราคาที่ลงท้ายด้วย “00” หรือ “50” เช่น 1 ดอลลาร์ = 150 เยน หรือ 0.8500 ปอนด์ เป็นจุดจิตวิทยาที่นักเทรดหลายคนให้ความสำคัญ
บริเวณนี้มักมีการรวมตัวของคำสั่งตัดขาดทุนหรือคำสั่งจำกัดราคา ทำให้เป็นเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ การเคลื่อนไหวที่ทะลุระดับสำคัญเพียงเล็กน้อยแล้วกลับตัวทันที เป็นตัวอย่าง điển hìnhของการล่า stop hunting ประเภทนี้
4.4 บริเวณใกล้จุดสูงสุดและต่ำสุดล่าสุด
ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค จุดสูงสุดและต่ำสุดล่าสุดจะถูกมองเป็นแนวรับและแนวต้าน ดังนั้น นักเทรดหลายคนจึงวางระดับ stop loss ไว้ด้านนอกของระดับเหล่านี้
นักลงทุนรายใหญ่สามารถโจมตี “โซนรวมตัวของ stop loss” นี้เพื่อกระตุ้นคำสั่งจำนวนมาก แล้วใช้โมเมนตัมนั้นในการกลับตัว
4.5 ช่วงการซื้อขายบางเบาก่อนเหตุการณ์
ก่อนวันหยุดของประเทศหลักหรือช่วงวันหยุดยาว ปริมาณการซื้อขายจะบางเบาลงเนื่องจากการปรับตำแหน่ง ในช่วงเช่นนี้ การซื้อขายเพียงเล็กน้อยก็สามารถผลักราคาขึ้นหรือลงได้ ทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของการล่า stop hunting
การตระหนักถึงจังหวะและช่วงราคาเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเผชิญกับการล่า stop hunting ได้
5. ตัวอย่างการล่า Stop จริง
การล่า Stop เป็นปรากฏการณ์ที่ยากที่จะเข้าใจจากทฤษฎีหรือคำจำกัดความเพียงอย่างเดียว ในส่วนนี้ เราจะอธิบายลักษณะเด่นโดยใช้ตัวอย่างรูปแบบทั่วไปที่สามารถสังเกตได้บนชาร์ต จริงๆ แล้ว แม้จะอธิบายโครงสร้างด้วยข้อความเท่านั้น แต่ในการเทรดจริง การตรวจสอบภาพชาร์ตควบคู่กันจะช่วยให้เข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
5.1 พินบาร์ที่มาพร้อมกับวิคยาวและการเคลื่อนไหวรุนแรง
รูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดคือแท่งเทียนที่มาพร้อมกับ “วิคยาว”
ตัวอย่างเช่น หลังจากทะลุลงไปต่ำกว่าระดับราคาที่มีคำสั่ง Stop Loss ของตำแหน่งซื้อรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นแท่งนั้นก็สร้างวิคด้านล่างยาวและกลับขึ้นมาถึงระดับเดิมใกล้เคียง
การเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ว่าหลังจากคำสั่ง Stop Loss ถูกกระตุ้นติดต่อกันแล้ว มีการซื้อแบบเด้งกลับเข้ามา ทำให้ราคาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรอบเวลา 1 นาที ถึง 15 นาที ที่เป็นกรอบสั้นๆ จะพบเห็นบ่อย
5.2 การแกว่งตัวรุนแรงทันทีหลังประกาศตัวชี้วัด
ทันทีหลังประกาศสถิติการจ้างงานหรืออัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง อัตราแลกเปลี่ยนอาจพุ่งขึ้นหรือร่วงลงในทิศทางเดียวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลับตัวไปในทิศทางตรงข้ามอย่างมาก
การเคลื่อนไหวรุนแรงในเวลานี้เกิดจากการลดลงของสภาพคล่องทันทีหลังประกาศและการรวมตัวของ Stop Loss ซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบล่า Stop ได้สูง
5.3 การทะลุระดับสำคัญแล้วกลับตัว
การเคลื่อนไหวที่กลับตัวอย่างรวดเร็วทันทีหลังทะลุระดับกลมๆ เช่น 1 ดอลลาร์ = 150 เยน หรือ EUR/USD 1.1000 เพียงไม่กี่ pip ก็เป็นรูปแบบทั่วไปของการล่า Stop
เนื่องจากเทรดเดอร์จำนวนมากวาง Stop Loss ไว้ด้านนอกของระดับสำคัญ ดังนั้นราคาจึงทะลุไปเพียงชั่วครู่เพื่อกระตุ้น Stop Loss จากนั้นฝ่ายผู้ก่อการก็ทำการซื้อขายตรงข้าม ทำให้เกิดการเด้งกลับอย่างรวดเร็ว
5.4 การ “ล่อ” ที่จุดต่ำสุดหรือสูงสุดล่าสุด
ปรากฏการณ์ที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามทันทีที่ทะลุจุดสูงสุดหรือต่ำสุดล่าสุดเพียงเล็กน้อย ก็ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งเป้าไปที่ Stop Loss
ตัวอย่างเช่น ในแนวโน้มขาลง หากมีการเด้งขึ้นชั่วคราวและทะลุจุดสูงสุดล่าสุดเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็ร่วงลงอย่างหนัก อาจเป็นการกระตุ้น Stop Loss ของฝ่าย Short แล้วกลับสู่แนวโน้มเดิม
การเข้าใจรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตสัญญาณของการล่า Stop จากชาร์ตได้ง่ายขึ้น
6. ชนิดและลักษณะของการล่า Stop
การล่า Stop มีหลายประเภทตามแหล่งที่มาและผู้ที่ทำการล่อหลอก โดยการเข้าใจลักษณะของแต่ละประเภทจะช่วยให้คาดเดาพื้นหลังของการเคลื่อนไหวของราคาได้ง่ายขึ้น และช่วยในการวางแผนหลีกเลี่ยง ที่นี่เราจะแนะนำ 2 ประเภทหลัก
6.1 การล่า Stop แบบนักลงทุนรายใหญ่
ลักษณะ
- ผู้ที่ทำการล่อหลอกหลักคือเทรดเดอร์รายใหญ่ เช่น กองทุนเฮดจ์หรือนักลงทุนสถาบัน
- เล็งไปที่ช่วงราคาที่คำสั่ง Stop Loss กระจุกตัวอยู่ โดยใช้คำสั่งซื้อขายจำนวนมากทะลุผ่านไปในคราวเดียว
- หลังจากกระตุ้น Stop Loss แล้ว ทำการซื้อขายตรงข้ามเพื่อปิดกำไรในเวลาสั้น
- มักเกิดกรณีที่ตลาดผันผวนรุนแรงและกลับตัวอย่างรวดเร็วในเวลาสั้น
ข้อดีและความเสี่ยง (มุมมองของผู้ล่อหลอก)
- เนื่องจากมีทุนมหาศาล หากสำเร็จจะได้ผลตอบแทนสูงในเวลาสั้น
- หากล้มเหลวก็มีความเสี่ยงสูญเสียทุนจำนวนมาก
จุดสังเกต (มุมมองของผู้เสียหาย)
- มักเกิดในช่วงเวลาที่สภาพคล่องต่ำ
- การผันผวนรุนแรงที่ผิดปกติใกล้ระดับราคาสำคัญหรือจุดสูงสุด/ต่ำสุดล่าสุด
- หลังเกิดเหตุ มักกลับสู่ระดับเดิมในเวลาสั้น
6.2 การล่า Stop แบบโบรกเกอร์ FX
ลักษณะ
- เกิดจากโบรกเกอร์ FX บางรายที่ใช้ระบบ DD (โต๊ะซื้อขาย)
- ใช้ข้อมูลตำแหน่งของลูกค้าเพื่อกำหนดราคาที่เล็งกระตุ้น Stop Loss
- ขยายสเปรดชั่วคราว หรือเสนออัตราที่不利กว่าในตลาดอื่น
- โครงสร้างที่โบรกเกอร์ได้กำไรจากความสูญเสียของลูกค้า
ข้อควรระวัง
- ใน FX ญี่ปุ่นที่กฎระเบียบเข้มงวดจึงเกิดยาก แต่ไม่ใช่เป็นศูนย์
- ใน FX ต่างประเทศ ความเสี่ยงสูงขึ้นในโบรกเกอร์จากพื้นที่ที่กฎระเบียบหละหลวม
- ในระบบ NDD (ระบบไม่ใช้โต๊ะซื้อขาย) ที่โปร่งใสจึงเกิดยาก
6.3 จุดตรวจสอบเพื่อแยกแยะ
- เปรียบเทียบราคากับชาร์ตหลายรายจากโบรกเกอร์หรือตลาดอื่น เพื่อตรวจสอบความเบี่ยงเบนที่ผิดปกติ
- เปรียบเทียบช่วงราคาที่เกิดกับข้อมูล Order Book ก่อนหน้า
- หากการเคลื่อนไหวหลังทะลุระดับสำคัญกลับตัวในเวลาสั้นมาก ต้องระวัง
ดังนั้น การล่า Stop จึงมี 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน คือ “แบบนักลงทุนรายใหญ่” และ “แบบโบรกเกอร์ FX” ทั้งคู่มีความเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดความสูญเสีย ดังนั้นในส่วนถัดไป เราจะอธิบายวิธีหลีกเลี่ยงที่ทำได้ง่ายแม้สำหรับมือใหม่ โดยเรียงลำดับขั้นตอน
7. วิธีหลีกเลี่ยงการล่า Stop ที่แม้แต่มือใหม่ก็ทำได้ (เรียงตามระดับความยากในการปฏิบัติ)
การล่า Stop เป็นปรากฏการณ์ที่ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยการดำเนินมาตรการป้องกัน เราสามารถลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุดได้ ที่นี่เราจะแนะนำวิธีหลีกเลี่ยงโดยเรียงตามลำดับที่ง่ายสำหรับมือใหม่ในการปฏิบัติ
7.1 อย่าวางคำสั่ง Stop Loss ที่ราคาที่เด่นชัด (หลีกเลี่ยงตัวเลขกลม)
เทรดเดอร์จำนวนมากมักวางจุดตัดขาดทุนที่ระดับราคาที่เป็นจุดจิตวิทยา เช่น ตัวเลขกลมๆ อย่าง 1 ดอลลาร์ = 150.000 เยน หรือ ยูโร/ดอลลาร์ 1.1000
ตำแหน่งเหล่านี้มักถูกเล็งเป้า ดังนั้นการตั้งค่าที่ราคาที่ไม่เป็นตัวเลขกลมๆ ห่างออกไปไม่กี่ pip ก็ช่วยลดโอกาสถูกโดนได้แล้ว

7.2 ปรับขนาด Lot เพื่อขยายช่วงตัดขาดทุน
หากช่วงตัดขาดทุนแคบเกินไป การเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้โดน Stop ได้ง่าย ลดขนาด Lot เพื่อควบคุมจำนวนเงินขาดทุนที่ยอมรับได้ จะช่วยให้ตั้งช่วงตัดขาดทุนได้กว้างขึ้น และลดความเสี่ยงจากการถูกไล่ล่า
7.3 เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง
ช่วงเวลาที่ตลาดโตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์กทับซ้อนกัน จะมีปริมาณการซื้อขายสูง ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวราคาที่ผิดปกติในเวลาสั้นๆ ได้ยาก ในทางตรงกันข้าม ควรหลีกเลี่ยงช่วงเช้าตรู่หรือวันหยุดที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำ
7.4 หลีกเลี่ยงการถือตำแหน่งก่อนและหลังการประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
ตัวชี้วัดอย่างสถิติการจ้างงานหรือการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มักก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวราคารุนแรงที่อาจกระตุ้นการล่า Stop ก่อนและหลังการประกาศตัวชี้วัดสำคัญ ควรลดขนาดตำแหน่งหรือหยุดเทรดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
7.5 เลือกโบรกเกอร์ FX ที่เชื่อถือได้แบบ NDD
บางโบรกเกอร์แบบ DD (Dealing Desk) มีโครงสร้างที่กำไรของลูกค้าคือขาดทุนของโบรกเกอร์ ทำให้เสี่ยงต่อการล่า Stop มากขึ้น การเลือกโบรกเกอร์แบบ NDD (Non-Dealing Desk) ที่โปร่งใสหรือได้รับอนุญาตจากประเทศที่มีกฎระเบียบเข้มงวด จะช่วยลดความเป็นไปได้ของการ操纵ราคาที่ไม่เป็นธรรมได้มาก
การรวมมาตรการเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยลดความสูญเสียจากการล่า Stop ได้อย่างมีนัยสำคัญ
8. วิธีตรวจจับการล่า stop ใน MT4/MT5
MT4 และ MT5 เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่นักเทรดจำนวนมากใช้งาน โดยสามารถใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันมาตรฐานหรือตัวชี้วัดเพิ่มเติมเพื่อตรวจจับสัญญาณของการล่า stop ได้ในระดับหนึ่ง ในส่วนนี้ เราจะแนะนำวิธีที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
8.1 การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วในกราฟแท่งสั้น
ในกราฟแท่งสั้น เช่น 1 นาทีหรือ 5 นาที หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวอย่างรวดเร็วในเวลาสั้น แล้วกลับตัวทันที จะเป็นรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะของการล่า stop
โดยเฉพาะเทียนที่มีตัวแท่งเล็กและมีไส้ยาว (pin bar) เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงว่ามีการโจมตีบริเวณที่สั่ง stop loss หนาแน่น
8.2 การเปรียบเทียบฟีดราคาหลายแหล่ง
แสดงกราฟจากโบรกเกอร์ FX ที่แตกต่างกันพร้อมกัน และเปรียบเทียบส่วนต่างราคาหรือการขยายสเปรด
หากโบรกเกอร์เฉพาะเจาะจงแสดงการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างสุดโต่งชั่วคราวเท่านั้น อาจเป็นเพราะการเสนอราคาของโบรกเกอร์นั้น
8.3 การใช้ข้อมูล order book หรือกราฟ tick
ใน MT4/MT5 สามารถตรวจสอบข้อมูล order book (Depth of Market) หรือกราฟ tick ผ่านบางโบรกเกอร์ได้
หาก order book บางครั้งบางตาหรือมีคำสั่งซื้อขายที่รวมตัวกันในช่วงราคาเฉพาะ อาจบ่งชี้ว่ามี stop loss มากมายในระดับนั้น
8.4 การตรวจจับไส้ยาวด้วยตัวชี้วัด
หากใช้ตัวชี้วัดที่ปรับแต่งเอง สามารถทำเครื่องหมายเทียนที่มีไส้ยาวผิดปกติได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถค้นหาแพทเทิร์นที่การล่า stop เกิดขึ้นบ่อยจากกราฟย้อนหลัง
8.5 การเชื่อมโยงกับปฏิทินตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
MT4/MT5 มีเครื่องมือที่สามารถแสดงปฏิทินตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจบนกราฟในรูปแบบตัวชี้วัด ช่วยให้เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวราคาผิดปกติมักเกิดขึ้นก่อนและหลังเหตุการณ์สำคัญ และสามารถใช้เป็นแนวทางในการหลีกเลี่ยงล่วงหน้า
การวิเคราะห์ด้วย MT4/MT5 ไม่สามารถป้องกันการล่า stop ได้ 100% แต่ช่วยให้ตรวจจับสัญญาณได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการหลีกเลี่ยงความสูญเสีย
9. เทคนิคการระบุการล่า Stop ที่ผู้ปฏิบัติจริงใช้
เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มาก แม้จะไม่สามารถทำนายการเกิดการล่า Stop ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีเกณฑ์การตัดสินใจส่วนตัวเพื่อตรวจจับความเป็นไปได้ล่วงหน้า ที่นี่เราจะแนะนำเทคนิคการระบุที่เป็นตัวแทนที่ผู้ปฏิบัติจริงใช้บ่อย
9.1 การยืนยันตำแหน่งราคาด้วยไทม์เฟรมหลายระดับ
ไม่ใช่แค่ไทม์เฟรมระยะสั้นอย่าง 1 นาทีหรือ 5 นาที แต่ยังยืนยันตำแหน่งราคาด้วยไทม์เฟรมระดับสูงกว่าอย่าง 1 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง หรือรายวัน
แม้จะดูเหมือนทะลุจุดสำคัญในไทม์เฟรมระยะสั้น แต่ถ้าในไทม์เฟรมระดับสูงเป็นเพียงด้านนอกของแนวรับหรือแนวต้านทันที ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการทะลุแนวชั่วคราวจาก การล่า Stop
9.2 การอ้างอิงข้อมูลสมุดสั่งซื้อ
บางโบรกเกอร์ FX หรือเครื่องมือจะเปิดเผยสถานการณ์คำสั่งของผู้เข้าร่วมตลาดแบบเรียลไทม์ (สมุดสั่งซื้อ)
ถ้าคำสั่งหยุดขาดทุนหรือคำสั่งซื้อขายแบบจำกัด (Limit Order) หนาแน่นในช่วงราคาเฉพาะ ระดับนั้นจะกลายเป็นเป้าหมายของการล่า Stop ได้ง่าย
9.3 การให้ความสนใจกับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของปริมาณการซื้อขาย
ช่วงเวลาที่ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน แสดงถึงความเป็นไปได้ของการกระตุ้นหยุดขาดทุนจำนวนมากหรือการวางกับดัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเคลื่อนไหวที่ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงในเวลาสั้นและกลับตัวทันทีหลังจากนั้น เป็นลักษณะเฉพาะของการล่า Stop
9.4 การวิเคราะห์รูปแบบการทะลุแนวปลอม
สังเกตการเคลื่อนไหวที่กลับตัวอย่างแรงในทิศทางตรงข้ามทันทีหลังการทะลุแนว และบันทึกเงื่อนไขนั้น โดยการรวมช่วงเวลา ช่วงราคา และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน คุณสามารถสร้างรูปแบบสถานการณ์ที่การล่า Stop เกิดขึ้นง่ายตามสไตล์ของคุณเอง
9.5 การรับรู้ถึงความบางของตลาด
ดูราคาเสนอซื้อขายหรือข้อมูลกระดานซื้อขาย และถ้ารู้สึกว่าความหนาของคำสั่งบางเฉียบ ก็ต้องระวัง เนื่องจากราคาจะผันผวนง่ายจากคำสั่งขนาดใหญ่ และเป็นสภาพแวดล้อมที่การวางกับดักการล่า Stop สำเร็จได้ง่าย
เทคนิคการระบุเหล่านี้ จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเมื่อใช้ร่วมกันหลายอย่างในการตัดสินใจ แทนที่จะใช้เดี่ยวๆ
10. สรุป
การล่า stop เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ทำให้เทรดเดอร์รำคาญใจเป็นพิเศษในความผันผวนของราคาในตลาด FX ในหลายกรณี มันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากกลยุทธ์การซื้อขายเชิงยุทธศาสตร์ของนักลงทุนรายใหญ่ หรือการ操纵อัตราที่ไม่โปร่งใสของผู้ให้บริการ FX บางราย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มีเจตนา
ในบทความนี้ เราได้อธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่คำจำกัดของการล่า stop สาเหตุที่เกิดขึ้น จังหวะและช่วงราคาที่เสี่ยงถูกเล็ง รูปแบบชาร์ตจริงๆ แล้วยังรวมถึงวิธีหลีกเลี่ยงและวิธีการระบุตัวตนด้วย หากสรุปประเด็นสำคัญ จะเป็นดังนี้
- 本质ของการล่า stop คือ เทคนิคที่โจมตีจุดรวมของคำสั่งตัดขาดทุนเพื่อเคลื่อนไหวตลาดชั่วคราว แล้วทำกำไรจากการกลับตัว
- สาเหตุหลัก คือ การ操纵ตลาดโดยนักลงทุนรายใหญ่ และการ操纵อัตราของผู้ให้บริการ FX บางราย
- เงื่อนไขที่เกิดขึ้นง่าย คือ ช่วงเวลาที่การซื้อขายบางตื้น ช่วงก่อนและหลังตัวชี้วัดสำคัญ บริเวณตัวเลขกลมๆ หรือใกล้จุดสูงสุด/ต่ำสุดล่าสุด
- วิธีหลีกเลี่ยง คือ การปรับตำแหน่งตัดขาดทุน การปรับขนาดล็อต การเทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง การเลือกผู้ให้บริการแบบ NDD ฯลฯ
- กุญแจในการระบุ คือ การวิเคราะห์กรอบเวลาหลายระดับ การตรวจสอบออร์เดอร์บุ๊คและปริมาณการซื้อขาย การจำรูปแบบการทะลุหลอก
การล่า stop ไม่จำเป็นต้องผิดกฎหมายเสมอไป แต่สำหรับฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ มันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ขยายการสูญเสีย
สิ่งสำคัญคือ “การเข้าใจพื้นหลังของการเกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงล่วงหน้า” ในตลาดไม่มีเขตปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ แต่ด้วยความรู้และการเตรียมตัว คุณสามารถลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็นและเชื่อมโยงไปสู่การดำเนินการที่มั่นคงในระยะยาวได้
11. คำถามที่พบบ่อย
Q1. การล่า Stop Loss ผิดกฎหมายหรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องผิดกฎหมายเสมอไป
นักลงทุนรายใหญ่หรือกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ทำการล่า Stop Loss มักถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์การซื้อขายในตลาดประเภทหนึ่ง และส่วนใหญ่ไม่ตกอยู่ภายใต้การกำกับดูแล ในทางตรงกันข้าม หากโบรกเกอร์ FX จงใจ操控อัตราฟรีเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าขาดทุน การกระทำดังกล่าวอาจถือเป็นการทุจริตหรือการ操控ตลาดและตกอยู่ภายใต้การกำกับดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโบรกเกอร์ FX ในประเทศที่หน่วยงานกำกับดูแลอย่างสำนักงานการเงิน (Financial Services Agency) มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำดังกล่าวจะได้รับการลงโทษทางปกครอง
Q2. ระหว่าง FX ในประเทศและ FX ต่างประเทศ อันไหนมีการล่า Stop Loss มากกว่ากัน?
FX ในประเทศมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดจากหน่วยงานอย่างสำนักงานการเงิน ทำให้การ操控ราคาที่ไม่เป็นธรรมจากโบรกเกอร์เกิดขึ้นได้ยากกว่า
สำหรับ FX ต่างประเทศ แม้จะมีโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือมากมาย แต่โบรกเกอร์ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศที่มีการกำกับดูแลหลวม มีความเสี่ยงในการ操控ราคาสูงกว่า ในทั้งสองกรณี การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช้ระบบ NDD ที่โปร่งใสสูงเป็นสิ่งสำคัญ
Q3. หากรู้วิธีการล่า Stop Loss จะหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมดหรือไม่?
การหลีกเลี่ยงอย่างสมบูรณ์เป็นเรื่องยาก
การล่า Stop Loss สามารถเกิดขึ้นในช่วงเวลาหรือระดับราคาที่คาดไม่ถึง และเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ทั้งหมดล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม โดยการรวมมาตรการต่างๆ เช่น การวางตำแหน่ง Stop Loss อย่างชาญฉลาด การปรับขนาด Lot การเทรดในช่วงเวลาที่สภาพคล่องสูง สามารถลดความเสียหายได้อย่างมาก
Q4. สามารถตรวจจับการล่า Stop Loss ด้วย MT4/MT5 ได้หรือไม่?
MT4/MT5 เองไม่มีฟังก์ชันในการตรวจจับ “การล่า Stop Loss” โดยตรง
อย่างไรก็ตาม โดยการรวมการวิเคราะห์ เช่น กราฟแท่งสั้นที่มีหางยาว การเปรียบเทียบอัตราค่าจากโบรกเกอร์หลายราย การตรวจสอบปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นกะทันหัน หรือการวิเคราะห์ Order Book สามารถคาดเดาความเป็นไปได้ของการล่า Stop Loss ได้ในระดับสูง
Q5. มีวิธีตรวจสอบว่าตำแหน่ง Stop Loss ของตัวเองถูกเล็งเป้าหรือไม่?
ไม่มีวิธีการยืนยัน 100% แต่สามารถลดความเป็นไปได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
- อย่าวาง Stop Loss ที่ตัวเลขกลมๆ หรือใกล้จุดสูงสุด/ต่ำสุดล่าสุด
- เปรียบเทียบอัตราค่ากับโบรกเกอร์อื่นเพื่อตรวจสอบความคลาดเคลื่อนที่ผิดปกติ
- ตรวจสอบข้อมูล Order Book หรือจุดที่คำสั่งรวมตัวกันเพื่อหลีกเลี่ยง
Q&A เหล่านี้ถูกจัดทำขึ้นจากคำถามที่นักเทรดจริงมักถามบ่อย หากนำไปใช้ร่วมกับบทความทั้งหมด จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและความสามารถในการป้องกันการล่า Stop Loss ได้ยิ่งขึ้น