ชอร์ตคัฟเวอร์คืออะไร? แนวคิดสำคัญและวิธีปฏิบัติสำหรับมือใหม่

※記事内に広告を含む場合があります。

วันนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดสำคัญในด้านการลงทุนและการเทรดที่เรียกว่า “short cover” อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น Short cover คือปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อคืนตำแหน่ง และมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด ดังนั้น การมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน เราจะอธิบายตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานของ short cover ผลกระทบต่อตลาด ไปจนถึงการเคลื่อนไหวของราคาจริง โดยยกตัวอย่างประกอบ เพื่อให้ครอบคลุม โปรดใช้บล็อกนี้เพื่อทำความเข้าใจสาระสำคัญของ short cover อย่างลึกซึ้ง

目次

1. แนวคิดพื้นฐานของการปิดสถานะ short|อธิบายอย่างเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่

การปิดสถานะ short หมายถึง การที่นักลงทุนซื้อคืนสินทรัพย์เดียวกันเพื่อปิดสถานะหลังจากขายชอร์ตสินทรัพย์นั้น นั่นคือ หลังจากสร้างสถานะ short ในช่วงที่ราคากำลังลดลง เพื่อล็อกกำไรหรือหลีกเลี่ยงการขาดทุนโดยการซื้อคืน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด การซื้อคืนนี้อาจทำให้ราคาตลาดเด้งขึ้นได้บ่อยครั้ง

กระบวนการของการปิดสถานะ short

  1. การสร้างสถานะ short
    นักลงทุนคาดว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง จึงทำการขายชอร์ต ในขณะนั้น พวกเขาขายสินทรัพย์ที่ราคาสูงปัจจุบัน และวางแผนซื้อคืนที่ราคาต่ำในอนาคตเพื่อทำกำไร

  2. การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาด
    หากราคาเริ่มสูงขึ้นตรงข้ามกับที่คาดไว้ นักลงทุนที่ถือสถานะ short จะเกิดการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ดังนั้น เพื่อจำกัดการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุด พวกเขามักจะรีบซื้อคืนในเวลาอันสั้น

  3. การผลักดันราคาให้สูงขึ้น
    เมื่อนักลงทุนจำนวนมากทำการปิดสถานะ short พร้อมกัน สั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ผลักดันราคาให้สูงขึ้น และก่อให้เกิดการปิดสถานะ short เพิ่มเติม ปัจจัยนี้เรียกว่า “short squeeze”

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการปิดสถานะ short

เหตุผลหลักที่ทำให้เกิดการปิดสถานะ short มีดังนี้

  • การฟื้นตัวของตลาด
    เมื่อตลาดฟื้นตัวชั่วคราว นักลงทุนที่ถือสถานะ short จะปิดสถานะได้ง่ายขึ้น ในช่วงเวลานี้ นักลงทุนที่ต้องการล็อกกำไรอาจปรากฏขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้นอีกครั้ง

  • ความจำเป็นในการตัดขาดทุน
    เมื่อมูลค่าสินทรัพย์สูงขึ้น นักลงทุนที่ถือสถานะ short จะคิดถึงการขายทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน ในสถานการณ์นี้ การปิดสถานะ short ก็เกิดขึ้น และทำให้สมดุลอุปสงค์และอุปทานของตลาดเปลี่ยนแปลง

ความสำคัญของการปิดสถานะ short

การปิดสถานะ short เป็นองค์ประกอบที่มีคุณค่ามากในกลยุทธ์การลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดลดลงในระยะยาว การปิดสถานะ short ในเวลาที่เหมาะสมจะเป็นจุดสำคัญในการทำกำไร นอกจากนี้ หากสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ก็จะสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การเข้าใจกลไกและผลกระทบของการปิดสถานะ short จึงเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักลงทุน

2. ผลกระทบและกลไกของการปิดสถานะขายต่อตลาด

การปิดสถานะขายหมายถึง การซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด ในส่วนนี้ เราจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบและกลไกของการปิดสถานะขาย

กลไกของการปิดสถานะขาย

พื้นหลังที่ทำให้เกิดการปิดสถานะขายมีปัจจัยดังต่อไปนี้

  • การเคลื่อนไหวของผู้เข้าร่วมตลาด: นักลงทุนที่ถือสถานะขายจะรีบซื้อคืนเพื่อล็อกกำไรหรือลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด สิ่งนี้ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาตลาดอาจพลิกตัวขึ้น
  • ปัจจัยทางจิตวิทยา: เมื่อราคาขึ้น สภาวะตลาดจะดีขึ้น ทำให้มีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้คาดว่าจะทำให้การปิดสถานะขายเกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อตลาด

การปิดสถานะขายส่งผลกระทบต่อตลาดดังต่อไปนี้

  1. การพุ่งขึ้นของราคาอย่างรวดเร็ว: เมื่อเกิดการปิดสถานะขาย แรงซื้อจะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาตลาดพุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสถานะขายสะสมจำนวนมาก การปิดสถานะจะส่งผลกระทบชัดเจน

  2. การเกิด short squeeze: เมื่อการปิดสถานะขายรุนแรง นักลงทุนที่ถือสถานะขายอาจถูกบังคับให้ตัดขาดทุน สิ่งนี้จะกระตุ้นการซื้อคืนเพิ่มเติม ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “short squeeze” ซึ่งราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

  3. ความผันผวนที่เพิ่มขึ้น: การปิดสถานะขายทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นชั่วคราว โดยเฉพาะในหุ้นหรือตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการปิดสถานะขาย

เมื่อเกิดการปิดสถานะขาย ปัจจัยต่อไปนี้มักจะมีอิทธิพล

  • การประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ: การประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหรือผลประกอบการของบริษัทที่ไม่คาดคิดอาจกระตุ้นการปิดสถานะขาย นักลงทุนจะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอย่างรวดเร็วเพื่อประเมินทิศทางตลาด

  • ระดับสนับสนุนทางเทคนิค: การเด้งกลับใกล้ระดับสนับสนุนจากวิเคราะห์ทางเทคนิคอาจกระตุ้นการปิดสถานะขาย โดยเฉพาะในระดับเทคนิคที่ได้รับความนิยม ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากจะตอบสนอง

การปิดสถานะขายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด การที่นักลงทุนเข้าใจกลไกนี้จะช่วยในการสร้างกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. การเคลื่อนไหวของตลาดที่เกิดขึ้นจริงจาก short covering

การเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดที่เกิดขึ้นจาก short covering อย่างเฉพาะเจาะจงจะช่วยให้คุณสามารถวางกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในสถานการณ์ที่ short position ถูกซื้อคืน อาจสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวดังต่อไปนี้

การกลับตัวของตลาด

short covering ที่เกิดขึ้นอาจทำให้ตลาดกลับตัวและมุ่งไปสู่แนวโน้มขาขึ้น ซึ่งเกิดจากกลไกดังต่อไปนี้

  • การซื้อคืนสถานะขาย: นักลงทุนที่ถือสถานะขายจะปิดสถานะเพื่อล็อกกำไร ซึ่งจะสร้างแรงต้านให้กับตลาดและนำไปสู่การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • การเพิ่มขึ้นของการซื้อใหม่: short covering ที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นจิตวิทยาว่า “ตลาดกำลังฟื้นตัว” ทำให้มีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะผลักดันราคาให้สูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม

การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้น

เมื่อ short covering เกิดขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคลายความตึงเครียด อาจเกิดการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้

  1. การซื้อคืนอย่างรวดเร็ว: เมื่อสถานะขายสะสมมากพอ ในช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจะรีบซื้อคืนพร้อมกัน
  2. การตัดขาดทุนแบบลูกโซ่: นักลงทุนที่ถือสถานะขายซึ่งขาดทุน จะทำการตัดขาดทุน สร้างแรงซื้อเพิ่มเติม

กระบวนการเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เพิ่มความผันผวนให้กับตลาด เช่น หากยืนยันเส้นแนวรับในช่วงราคาเฉพาะ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ short covering อย่างรวดเร็ว

การสนับสนุนทางเทคนิคและแนวต้าน

การเคลื่อนไหวจาก short covering มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการสนับสนุนและแนวต้านในชาร์ตเทคนิค โดยเฉพาะจุดสำคัญดังต่อไปนี้

  • จุดต่ำสุดครั้งที่สอง: เมื่อยืนยันการก่อตัวของจุดต่ำสุดครั้งที่สอง การซื้อคืนจะคึกคัก และตลาดมีโอกาสกลับตัวสูงขึ้น
  • รูปแบบหัวไหล่กลับหัว: เมื่อรูปแบบนี้ปรากฏ จะกระตุ้น short covering และนักลงทุนจะคาดหวังถึงจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นใหม่

การสังเกตการเคลื่อนไหวของตลาดโดยเข้าใจรูปแบบเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้จับจังหวะ short covering ได้ง่ายขึ้น ผลกระทบจาก short covering เป็นปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนแปลงตลาดอย่างมองไม่เห็น และกำหนดกลยุทธ์การลงทุนถัดไป

4. การล็อกกำไรและการตัดขาดทุน|ช่วงเวลาที่เกิดการปิดสถานะชอร์ต

การปิดสถานะชอร์ตเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นโดยหลักเพื่อวัตถุประสงค์ในการล็อกกำไรหรือตัดขาดทุน ในกระบวนการนี้ นักลงทุนจะตอบสนองอย่างละเอียดอ่อนต่อการเคลื่อนไหวของตลาด และปรับสถานะการลงทุน ซึ่งมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามาดูกันว่าสถานการณ์ใดที่ทำให้เกิดการปิดสถานะชอร์ต

การปิดสถานะชอร์ตเนื่องจากการล็อกกำไร

การล็อกกำไร หมายถึงการกระทำที่นักลงทุนทำให้กำไรที่ได้จากตลาดเป็นจริง นักลงทุนที่ถือสถานะชอร์ตจะทำการซื้อคืนเพื่อล็อกกำไรในสถานการณ์ดังต่อไปนี้

  • เมื่อราคาลดลงต่อเนื่อง: หากราคาลดลงต่ำกว่าราคาที่ขายชอร์ตครั้งแรก นักลงทุนสามารถล็อกกำไรได้ ดังนั้นจึงปิดสถานะขาย
  • ช่วงเวลาที่ตลาดไม่แน่นอน: ในช่วงที่ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น หากรู้สึกว่าสามารถล็อกกำไรใหญ่ได้ง่าย การปิดสถานะชอร์ตก็อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อการเคลื่อนไหวของตลาดไม่แน่นอน นักลงทุนมักเลือกที่จะล็อกกำไรเร็ว

การปิดสถานะชอร์ตเนื่องจากการตัดขาดทุน

การตัดขาดทุนคือการกระทำที่นักลงทุนปิดสถานะเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเพิ่มเติม เหตุผลหลักที่นักลงทุนเลือกตัดขาดทุนมีดังต่อไปนี้

  • เมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว: นักลงทุนที่ถือสถานะขายจะตัดขาดทุนทันทีหากราคาขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่เพิ่มขึ้น การตัดสินใจนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม และเป็นปัจจัยที่ทำให้แรงซื้อเพิ่มขึ้น
  • เงินทุนประกันไม่เพียงพอ: การรักษาสถานะชอร์ตต้องใช้เงินทุนประกันในระดับหนึ่ง หากราคาขึ้นต่อเนื่องและเงินทุนประกันไม่พอ จะต้องปิดสถานะโดยบังคับ ซึ่งก็จะนำไปสู่การปิดสถานะชอร์ตเช่นกัน

ผลกระทบของการปิดสถานะชอร์ตต่อตลาด

การปิดสถานะชอร์ตจะส่งผลกระทบต่อตลาดดังต่อไปนี้

  • การพุ่งขึ้นของราคาอย่างรวดเร็ว: แรงขายลดลงและความต้องการเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น สถานการณ์เช่นนี้จะนำไปสู่การปิดสถานะชอร์ตเพิ่มเติม
  • การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม: การขึ้นของราคาอาจทำให้แนวโน้มของตลาดโดยรวมเปลี่ยนไป จากประวัติศาสตร์ การปิดสถานะชอร์ตมักนำไปสู่การขึ้นของตลาดซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก

การเข้าใจผลกระทบที่การปิดสถานะชอร์ตมีต่อตลาดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำความเข้าใจกลไกเหล่านี้ในช่วงที่ความผันผวนสูง จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ การจับจังหวะการปิดสถานะชอร์ตได้ดีจะช่วยให้สามารถเพิ่มกำไรได้สูงสุด

5. ดูตัวอย่างจริง|การปิดสถานะขายในอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่นปี 2023

ในเดือนมกราคม 2023 มาดูตัวอย่างเฉพาะเจาะจงของการปิดสถานะขายที่เกิดขึ้นในอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่นกันเถอะ กรณีนี้เป็นตัวชี้วัดที่ดีในการทำความเข้าใจว่าการปิดสถานะขายส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไร

ที่มาของการปิดสถานะขาย

วันที่ 18 มกราคม การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นจัดขึ้น และผลลัพธ์นั้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจคงสถานะปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่นจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และขึ้นชั่วคราวมากกว่า 3 เยน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นตลาดกลับตัว และเริ่มลดลงมากกว่า 4 เยน จุดสำคัญคือในกระบวนการนี้ มีการสะสมสถานะขายจำนวนมาก

จุดที่เกิดการปิดสถานะขาย

หลังจากตลาดถึงระดับต่ำสุด โดยเฉพาะเมื่อเกิดรูปแบบก้นรอบที่สองหรือหัวไหล่กลับ การปิดสถานะขายจะเกิดขึ้นอย่างคึกคัก ในเวลานี้ นักลงทุนจะกลับสู่ตลาดด้วยแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และตลาดจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้จะดำเนินไปทีละขั้นตอนดังนี้

  • การรักษาระดับต่ำ: ตลาดที่ยังคงอยู่ในช่วงต่ำและเคลื่อนไหวแบบ sideways จะทำให้ นักลงทุนที่ถือสถานะขายตัดสินใจซื้อคืน
  • การกลับตัวของราคา: เมื่อราคาค่อยๆ ขึ้น จะส่งเสริมการซื้อคืนสถานะขายเพิ่มเติม ทำให้ตลาดเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นบ่อยครั้ง

แนวโน้มตลาดจริง

ในอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่นจริง เมื่อเกิดการปิดสถานะขายพร้อมกับการซื้อใหม่ ตลาดจะก่อตัวแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ การปิดสถานะขายจึงมีบทบาทสำคัญมากในพลวัตของตลาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีแนวโน้มดังต่อไปนี้:

  • เริ่มการปิดสถานะขาย: หลังจากก่อตัวก้นรอบที่สอง แรงซื้อจะเพิ่มขึ้น และเกิดการปิดสถานะขายหลายครั้ง
  • การพุ่งขึ้นของราคา: การปิดสถานะขายเป็นตัวกระตุ้น ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่นขึ้นชั่วคราวมากกว่า 2 เยน

ผ่านกระบวนการเช่นนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเฉพาะหรือข่าวสารตลาดมักเป็นปัจจัยที่ผลักดันการปิดสถานะขาย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนรุนแรง ปัจจัยทางจิตวิทยาก็มีผล ทำให้พฤติกรรมของนักลงทุนได้รับผลกระทบอย่างมาก

สรุป

การซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ตเป็นพฤติกรรมการลงทุนที่สำคัญซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อแนวโน้มของตลาด เนื่องจากนักลงทุนปรับสถานะของตนอย่างรวดเร็วตามการขึ้นหรือลงของราคา จึงก่อให้เกิดความผันผวนในตลาด ดังที่ได้อธิบายในบทความนี้ การเข้าใจช่วงเวลาที่เกิดการซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ตและผลกระทบของมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวางกลยุทธ์การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าใจปัจจัยที่กระตุ้นการซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ต เช่น การประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหรือการก่อตัวของรูปแบบทางเทคนิค จะช่วยให้สามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดล่วงหน้าได้ นักลงทุนควรเรียนรู้กลไกของการซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ตและจับทิศทางของตลาดได้อย่างแม่นยำซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ

คำถามที่พบบ่อย

Short covering คืออะไร?

Short covering หมายถึง การที่นักลงทุนซื้อคืนสินทรัพย์ที่ขายชอร์ตไว้หลังจากนั้น เพื่อปิดสถานะนั้น นั่นคือ หลังจากที่สถานะ short เกิดขึ้นในช่วงที่ราคากำลังลดลง การซื้อคืนเพื่อล็อกกำไรหรือหลีกเลี่ยงการขาดทุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด

Short covering ส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไร?

Short covering สามารถก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็วหรือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “short squeeze” และยังเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของความผันผวนในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเกิดการปิดสถานะจาก short position จำนวนมากที่สะสมไว้ ส่งผลกระทบนั้นจะชัดเจนยิ่งขึ้น

Short covering เกิดขึ้นเมื่อไหร่?

Short covering เกิดขึ้นเป็นหลักเพื่อวัตถุประสงค์ในการล็อกกำไรหรือหลีกเลี่ยงการขาดทุน หากราคาลดลงต่อเนื่องหรือในช่วงที่ตลาดไม่แน่นอน นักลงทุนที่ถือสถานะ short จะทำ short covering เพื่อปิดสถานะขาย นอกจากนี้ เมื่อราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจเกิด short covering เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น

มีตัวอย่างเฉพาะของ short covering หรือไม่?

ในเดือนมกราคม 2023 สำหรับคู่สกุลเงิน USD/JPY หลังจากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีการสะสม short position จำนวนมากในตลาด โดยใช้รูปแบบ 2nd bottom หรือ inverse head and shoulders เป็นตัวกระตุ้นให้เกิด short covering ส่งผลให้ตลาดพุ่งขึ้นชั่วคราว ดังนั้น ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเฉพาะหรือข่าวสารตลาดสามารถเป็นปัจจัยผลักดัน short covering ได้

เว็บไซต์อ้างอิง

OANDA FX/CFD Lab-education(オアンダ ラボ)

ショートカバーとは、ショートポジションの買い戻しです。利益確定の買い戻し、損切りの買い戻しがあり、買い戻しの連鎖が起こる…

 

※記事内に広告を含む場合があります。
佐川 直弘: MetaTraderを活用したFX自動売買の開発で15年以上の経験を持つ日本のパイオニア🔧

トレーデンシー大会'15世界1位🥇、EA-1グランプリ準優勝🥈の実績を誇り、ラジオ日経出演経験もあり!
現在は、株式会社トリロジーの役員として活動中。
【財務省近畿財務局長(金商)第372号】に登録
され、厳しい審査を経た信頼性の高い投資助言者です。


【主な活動内容】
・高性能エキスパートアドバイザー(EA)の開発と提供
・最新トレーディング技術と市場分析の共有
・FX取引の効率化と利益最大化を目指すプロの戦略紹介

トレーダー向けに役立つ情報やヒントを発信中!

This website uses cookies.