คู่มือครบถ้วน: ความสัมพันธ์ระหว่างพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ย พร้อมเคล็ดลับลงทุนสำหรับมือใหม่

※記事内に広告を含む場合があります。

การลงทุนในสินทรัพย์เป็นหนึ่งในตัวเลือกหนึ่งของการลงทุนในพันธบัตร การเพิ่มความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพันธบัตรเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ย ข้อดีและความเสี่ยงของการลงทุนในพันธบัตร รวมถึงประเภทและลักษณะของพันธบัตร เราหวังว่าผู้ที่กำลังพิจารณาการลงทุนในพันธบัตร รวมถึงผู้ที่ต้องการเพิ่มความรู้ด้านการเงิน จะได้รับประโยชน์จากเนื้อหานี้

目次

1. ความสัมพันธ์ระหว่างพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ย – ผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อราคาพันธบัตร

กลไกในตลาดพันธบัตรถูกกำหนดโดยทิศทางของอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยขึ้น การเข้าใจว่าผลกระทบต่อราคาพันธบัตรที่มีอยู่จะเป็นอย่างไรเป็นสิ่งสำคัญมากในการลงทุนพันธบัตร

ผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เมื่ออัตราดอกเบี้ยขึ้น พันธบัตรที่ออกใหม่จะมีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้พันธบัตรที่มีอยู่เดิมสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดและราคาจะลดลง ตัวอย่างเช่น หากคุณถือพันธบัตรที่อัตราดอกเบี้ย 1% เมื่อออกใหม่อัตราดอกเบี้ย 3% พันธบัตรเก่าจะสูญเสียความน่าสนใจ

สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน

ในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนมักจะชอบพันธบัตรใหม่ที่มีผลตอบแทนสูง ทำให้ความต้องการพันธบัตรที่มีอยู่ลดลง ส่งผลให้ผู้ถือพันธบัตรที่ต้องการขายต้องลดราคาลง การลดราคาที่เกิดขึ้นอาจทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียได้

ความสัมพันธ์เชิงกลับของผลตอบแทนและราคา

ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและผลตอบแทนของพันธบัตรเป็นเชิงกลับ กล่าวคือ เมื่อราคาพันธบัตรขึ้น ผลตอบแทนจะลดลง และเมื่อราคาลดลง ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น ความเข้าใจในเรื่องนี้เป็นแนวคิดพื้นฐานในการลงทุนพันธบัตร

ตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ

สมมุติว่าคุณถือพันธบัตรที่ออกในราคา 1,000,000 เยน โดยมีอัตราดอกเบี้ย 1% หากอัตราดอกเบี้ยตลาดขึ้นเป็น 3% คุณจะต้องลดราคาพันธบัตรเพื่อขายให้เพื่อน สุดท้ายอาจจะขายได้ที่ 900,000 เยน เพื่อนจะคำนวณผลตอบแทนจริงและพิจารณาว่าจะได้กำไรหรือไม่

ความเสี่ยงของการลงทุนพันธบัตร

ในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยขึ้น ราคาพันธบัตรที่มีอยู่จะลดลง ทำให้การลงทุนพันธบัตรมีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หากอัตราดอกเบี้ยลดลง พันธบัตรที่มีอยู่อาจถูกซื้อขายในราคาพรีเมียมในตลาด ดังนั้นต้องใส่ใจในทิศทางของอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ

ความสัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ตลาดพันธบัตรยังเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสภาพเศรษฐกิจ ในหลายกรณี เมื่อเศรษฐกิจเติบโต อัตราดอกเบี้ยมักจะขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อราคาพันธบัตร ตรงกันข้าม เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาพันธบัตรมักจะขึ้น ดังนั้น เพื่อความสำเร็จในการลงทุนพันธบัตร จำเป็นต้องติดตามทั้งทิศทางของอัตราดอกเบี้ยและสภาพเศรษฐกิจ

2. ข้อดีและความเสี่ยงของการลงทุนในพันธบัตร

การลงทุนในพันธบัตรเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับบุคคลและองค์กรในการจัดการสินทรัพย์ แต่การเข้าใจข้อดีและความเสี่ยงอย่างถ่องแท้เป็นสิ่งสำคัญ ในที่นี้เราจะมาดูข้อดีหลักและความเสี่ยงของการลงทุนในพันธบัตรอย่างละเอียด

ข้อดีของการลงทุนในพันธบัตร

ผลตอบแทนที่มั่นคง

หนึ่งในความน่าสนใจสูงสุดของพันธบัตรคือผลตอบแทนที่มั่นคงจากรายได้ดอกเบี้ย โดยทั่วไปพันธบัตรจะทำการชำระดอกเบี้ยเป็นระยะ ๆ ตามกำหนด และเมื่อครบกำหนดจะคืนเงินต้น ทำให้ผู้ลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนอย่างน้อยบางส่วน

การกระจายความเสี่ยง

การเพิ่มพันธบัตรเข้าไปในพอร์ตการลงทุนช่วยให้สามารถกระจายความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นและพันธบัตรมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันในสภาพตลาดต่าง ๆ การถือพันธบัตรจะทำให้ผลตอบแทนมีความเสถียรมากขึ้นและลดความผันผวนของสินทรัพย์โดยรวม

การลงทุนที่มีความโปร่งใสสูง

โดยทั่วไปพันธบัตรมีการเคลื่อนไหวของตลาดที่สงบและความผันผวนของราคาไม่มาก ทำให้การลงทุนมีความโปร่งใสสูง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น

ความเสี่ยงของการลงทุนในพันธบัตร

ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย

ราคาพันธบัตรไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาด ดังนั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาพันธบัตรที่มีอยู่เดิมอาจลดลง ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในการลงทุนพันธบัตร

ความเสี่ยงด้านเครดิต

หากผู้ออกพันธบัตรเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้หรือการล้มละลายจึงเกิดขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรของผู้ออกที่มีความสามารถทางเครดิตต่ำมีโอกาสที่เงินต้นจะไม่ถูกชำระคืน ดังนั้นเมื่อทำการลงทุนควรระมัดระวังอย่างรอบคอบ

ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง

ในบางตลาดอาจมีพันธบัตรบางประเภทที่ยากต่อการซื้อขาย ทำให้มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง เมื่อผู้ลงทุนต้องการขายพันธบัตรอาจไม่พบคู่สัญญาหรือราคาตลาดอาจลดลง ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับปัจจัยนี้ด้วย

สรุป

ดังนั้นการลงทุนในพันธบัตรมีความน่าสนใจมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงด้วย จึงจำเป็นต้องทำการวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาสไตล์การลงทุนและระดับความยอมรับความเสี่ยงของตนเองอย่างรอบคอบก่อนดำเนินการลงทุนจริง

3. ประเภทและลักษณะของพันธบัตร

พันธบัตรเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ผู้ลงทุนให้เงินกู้แก่ผู้ออกพันธบัตรเฉพาะเจาะจงได้ พันธบัตรมีหลายประเภทและแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะต่างกัน ด้านล่างนี้จะอธิบายประเภทหลักของพันธบัตรและลักษณะของแต่ละประเภท

1. พันธบัตรรัฐบาล

พันธบัตรรัฐบาลเป็นพันธบัตรที่รัฐบาลกลางออกเพื่อระดมทุนทางการเงิน พันธบัตรนี้ออกเพื่อระดมทุนทางการเงินและถูกซื้อโดยนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของพันธบัตรรัฐบาลคือความเชื่อถือสูงของมัน การล้มละลายของประเทศผู้ออกพันธบัตรเป็นเรื่องหายากและผู้ถือพันธบัตรสามารถคาดหวังว่าจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยตามกำหนด

2. พันธบัตรท้องถิ่น

พันธบัตรท้องถิ่นเป็นพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยเทศบาลหรือหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อระดมทุนสำหรับโครงการสาธารณะต่าง ๆ พันธบัตรท้องถิ่นมีความเชื่อถือต่ำกว่าพันธบัตรรัฐบาลเล็กน้อย แต่สามารถเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง ทำให้ได้รับความนิยมจากนักลงทุนหลายคน ประเภทของพันธบัตรท้องถิ่นมีทั้ง “พันธบัตรท้องถิ่นทั่วไป” ที่ออกเพื่อการกู้ยืมทั่วไป และ “พันธบัตรท้องถิ่นพิเศษ” ที่ออกเพื่อโครงการเฉพาะในพื้นที่

3. พันธบัตรบริษัท

พันธบัตรบริษัทเป็นพันธบัตรที่บริษัทมหาชนออกเพื่อระดมทุน ความเสี่ยงของพันธบัตรขึ้นอยู่กับความเชื่อถือของบริษัท ทำให้ผลตอบแทนมีความหลากหลาย พันธบัตรบริษัทมีทั้ง “investment-grade” ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่มั่นคง และ “junk bond” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงแต่สามารถให้ผลตอบแทนสูงได้

4. พันธบัตรต่างประเทศ

พันธบัตรต่างประเทศเป็นพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลหรือบริษัทต่างประเทศ โดยปกติแล้วการซื้อโดยตรงในประเทศญี่ปุ่นอาจยาก พันธบัตรต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นต้องพิจารณาผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนในขณะทำธุรกรรม การซื้อพันธบัตรด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐหรือยูโรแทนเงินเยน ทำให้ผลตอบแทนเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราผลตอบแทน

5. พันธบัตรดอกเบี้ยผันผวน

พันธบัตรดอกเบี้ยผันผวนเป็นพันธบัตรที่ดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยของตลาด หากอัตราดอกเบี้ยตลาดเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยของพันธบัตรก็เพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยตลาดลดลง ดอกเบี้ยก็ลดลง ดังนั้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอาจทำให้ผลกำไรสูงขึ้น แต่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้รายได้ลดลง

6. พันธบัตรพิเศษอื่น ๆ

ยังมีพันธบัตรที่ออกแบบตามความต้องการเฉพาะ เช่น พันธบัตรไม่มีดอกเบี้ย (zero-coupon bond) ซึ่งไม่จ่ายดอกเบี้ย แต่มีราคาขายที่ลดลงอย่างมาก ผู้ถือพันธบัตรจะได้รับเงินต้นเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนด ทำให้สามารถเลือกตามแผนการใช้เงินได้ นอกจากนี้ยังมี “green bond” และ “social bond” ซึ่งออกเพื่อสนับสนุนโครงการที่มีความหมายทางสังคม ซึ่งได้รับความสนใจมาก

ดังนั้น เนื่องจากพันธบัตรมีหลายประเภทและลักษณะต่าง ๆ นักลงทุนจึงควรเลือกตามวัตถุประสงค์การลงทุนของตนเอง เข้าใจลักษณะของแต่ละประเภทและพิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างรอบคอบ

4. ปัจจัยกำหนดราคาพันธบัตร

มูลค่าของพันธบัตรเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยหลายประการ การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมากในการตัดสินใจลงทุน ในส่วนนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาพันธบัตร

4.1 ความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนและราคาพันธบัตร

ผลตอบแทนของพันธบัตรและราคามีความสัมพันธ์กันอย่างแข็งแกร่ง ตามหลักการพื้นฐาน เมื่อผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ราคาพันธบัตรจะลดลง และในทางกลับกัน เมื่อผลตอบแทนลดลง ราคาจะเพิ่มขึ้น ปรากฏการณ์นี้เกิดจากพันธบัตรมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทำให้พันธบัตรใหม่ดูน่าสนใจมากขึ้น ทำให้มูลค่าตามสัมพัทธ์ของพันธบัตรที่มีอยู่ลดลง

4.2 ผลกระทบจากสมดุลอุปสงค์และอุปทาน

ตลาดพันธบัตรถูกกำหนดโดยการทำงานร่วมกันของอุปสงค์และอุปทาน เมื่อความสนใจในพันธบัตรใหม่เพิ่มขึ้น ราคาจะขึ้น แต่เมื่ออุปสงค์ลดลง ราคาจะลดลง การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานนี้เกี่ยวข้องกับสภาพตลาดและอารมณ์ของนักลงทุน ทำให้เป็นปัจจัยที่มีความพลวัตสูง

4.3 ความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออก

ความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือรัฐบาลที่ออกพันธบัตรก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อราคา พันธบัตรที่ออกโดยผู้ออกที่มีการจัดอันดับเครดิตสูงมีความปลอดภัยสูงและได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมาก ดังนั้นพันธบัตรเหล่านี้มักมีราคาที่คงที่ ในทางกลับกัน พันธบัตรของผู้ออกที่มีการจัดอันดับเครดิตต่ำจะถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงและมักมีแนวโน้มราคาลดลง

4.4 แนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายธนาคารกลาง

ความแข็งแรงของเศรษฐกิจและนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาพันธบัตร เมื่อคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะดี อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น ทำให้พันธบัตรที่มีอยู่ในตลาดมีราคาต่ำลง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดพันธบัตร

4.5 ผลกระทบจากเงินเฟ้อ

เมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น มูลค่าซื้อต่อเนื่องในอนาคตลดลง ทำให้ความระมัดระวังของนักลงทุนเพิ่มขึ้นและความต้องการพันธบัตรลดลง ในสถานการณ์เช่นนี้ ราคาพันธบัตรมักจะลดลง การเคลื่อนไหวของเงินเฟ้อเป็นปัญหาสำคัญสำหรับตลาดพันธบัตร

4.6 ความเสี่ยงจากสกุลเงินและการพิจารณา

เมื่อทำการลงทุนในพันธบัตรต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงค่าเงินก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เมื่อคุณลงทุนในพันธบัตรที่มีเงินตราต่างประเทศ หากเงินตรานั้นมีค่าลดลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ราคาของพันธบัตรก็จะได้รับผลกระทบด้วย ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจากสกุลเงินอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ปัจจัยเหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาพันธบัตรเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นักลงทุนต้องเข้าใจปัจจัยเหล่านี้อย่างครอบคลุมและจับภาพแนวโน้มของตลาดเพื่อเป็นกุญแจสู่การลงทุนพันธบัตรที่ประสบความสำเร็จ

{‘translated_html’: ‘

5. วิธีการลงทุนในพันธบัตรอย่างชาญฉลาด

การลงทุนในพันธบัตรเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มุ่งหาผลตอบแทนที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม การซื้อพันธบัตรเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ควรตั้งใจทำการลงทุนอย่างชาญฉลาด นี่คือวิธีบางประการที่ช่วยให้การลงทุนในพันธบัตรประสบความสำเร็จ

5.1 การประเมินอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยง

เมื่อทำการลงทุนในพันธบัตร จำเป็นต้องประเมินความสมดุลระหว่าง อัตราผลตอบแทนและ ความเสี่ยง อย่างรอบคอบ พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงมักมีความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกสูง จึงต้องใช้การตัดสินใจที่ระมัดระวัง ตรงกันข้าม พันธบัตรที่ปลอดภัยมักมีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่า การเลือกพันธบัตรที่เหมาะสมควรพิจารณาตามระดับความยอมรับความเสี่ยงของตนเอง

5.2 ความสำคัญของการกระจายการลงทุน

ตลาดพันธบัตรมีหลายประเภท เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรท้องถิ่น และพันธบัตรบริษัท อย่าลงทุนในพันธบัตรประเภทเดียวเพียงอย่างเดียว แต่กระจายการลงทุนไปยังพันธบัตรประเภทต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น การผสมผสานพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรท้องถิ่นที่ปลอดภัยกับพันธบัตรบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง จะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับพอร์ตโฟลิโอโดยรวม

5.3 การใช้กองทุนรวมพันธบัตรและ ETF

สำหรับผู้ที่รู้สึกไม่มั่นใจในการลงทุนโดยตรงในพันธบัตรหรืออยากลดความยุ่งยาก การใช้กองทุนรวมพันธบัตรหรือ ETF ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีนี้คุณสามารถกระจายการลงทุนไปยังพันธบัตรหลายประเภทและยังมีสภาพคล่องสูง คุณยังสามารถแปลงเป็นเงินสดได้ทันทีเมื่อจำเป็น แต่ต้องระวังค่าธรรมเนียมของกองทุนและ ETF ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุน

5.4 การติดตามแนวโน้มของตลาด

ตลาดพันธบัตรได้รับผลกระทบอย่างมากจาก อัตราดอกเบี้ย แนวโน้มเศรษฐกิจ และความน่าเชื่อถือของบริษัท การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและติดตามแนวโน้มของตลาดเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น ราคาพันธบัตรที่ออกแล้วมักจะลดลง ดังนั้นการวางกลยุทธ์การลงทุนควรอาศัยข้อมูลเหล่านี้เป็นหลัก

5.5 การมองภาพระยะยาว

พันธบัตรโดยทั่วไปมีความผันผวนของราคา น้อยกว่าหุ้น จึงเหมาะสมกับการถือครองในระยะยาว ไม่ควรตื่นเต้นหรือหดหู่กับการเปลี่ยนแปลงราคาสั้น ๆ แต่ควรเน้นที่รายได้ดอกเบี้ยประจำและมุ่งเน้นการเติบโตของการลงทุนอย่างมั่นคง

โดยพิจารณาจุดสำคัญเหล่านี้ ควรดำเนินการลงทุนในพันธบัตรที่เหมาะสมกับตนเอง การประเมินสภาพตลาดอย่างรอบคอบและมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ

‘}

สรุป

การลงทุนในพันธบัตรมีความน่าสนใจมากมาย เช่น รายได้ที่มั่นคง การกระจายความเสี่ยง และความโปร่งใสของการลงทุน
แต่ในทางกลับกัน ต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงด้านเครดิต และความเสี่ยงด้านสภาพคล่องอย่างเพียงพอ
การเข้าใจประเภทและลักษณะของพันธบัตร รวมถึงปัจจัยกำหนดราคา และการลงทุนอย่างชาญฉลาดตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ
การกระจายการลงทุน การติดตามแนวโน้มตลาด และการมองมุมมองระยะยาวจะเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง
การลงทุนในพันธบัตรมีหลายด้าน การเข้าใจอย่างครอบคลุมและวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองจะเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จ

คำถามที่พบบ่อย

ราคาตราสารหนี้และอัตราผลตอบแทนมีความสัมพันธ์อย่างไร?

ราคาตราสารหนี้และอัตราผลตอบแทนมีความสัมพันธ์แบบผกผัน กล่าวคือ เมื่อราคาตราสารหนี้เพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนจะลดลง และเมื่อราคาตก อัตราผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมูลค่าตราสารหนี้ที่มีอยู่เปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้ใหม่ที่ออก

การลงทุนในตราสารหนี้มีข้อดีและความเสี่ยงอย่างไร?

ข้อดีหลักของการลงทุนในตราสารหนี้คือผลตอบแทนที่มั่นคง การกระจายความเสี่ยง และความโปร่งใสสูง ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงเครดิต และความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง การลงทุนจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบโดยพิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง

ตราสารหนี้มีประเภทใดบ้างและลักษณะเด่นของแต่ละประเภทคืออะไร?

ตราสารหนี้มีหลายประเภท เช่น ตราสารหนี้ของรัฐ ตราสารหนี้ของท้องถิ่น ตราสารหนี้ของบริษัท ตราสารหนี้ต่างประเทศ และตราสารหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยผันผวน ลักษณะและเงื่อนไขการชำระเงิน รวมถึงคุณลักษณะความเสี่ยงต่าง ๆ จะแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกตราสารหนี้ที่เหมาะสมควรพิจารณาตามวัตถุประสงค์การลงทุน

เพื่อทำการลงทุนในตราสารหนี้อย่างชาญฉลาด ควรระวังอะไรบ้าง?

เพื่อให้การลงทุนในตราสารหนี้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องประเมินความสมดุลระหว่างอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยง และทำการกระจายการลงทุน นอกจากนี้ การติดตามแนวโน้มตลาดและมุมมองระยะยาวก็เป็นสิ่งสำคัญ การใช้กองทุนรวมหรือ ETF ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพหนึ่ง

เว็บไซต์อ้างอิง

大和証券の債券:債券価格と金利の関係は?のページ。学ぶ・セミナーの情報をご紹介します。…

※記事内に広告を含む場合があります。
佐川 直弘: MetaTraderを活用したFX自動売買の開発で15年以上の経験を持つ日本のパイオニア🔧

トレーデンシー大会'15世界1位🥇、EA-1グランプリ準優勝🥈の実績を誇り、ラジオ日経出演経験もあり!
現在は、株式会社トリロジーの役員として活動中。
【財務省近畿財務局長(金商)第372号】に登録
され、厳しい審査を経た信頼性の高い投資助言者です。


【主な活動内容】
・高性能エキスパートアドバイザー(EA)の開発と提供
・最新トレーディング技術と市場分析の共有
・FX取引の効率化と利益最大化を目指すプロの戦略紹介

トレーダー向けに役立つ情報やヒントを発信中!

This website uses cookies.