บทนำ
FX (การซื้อขายเงินตราต่างประเทศด้วยมาร์จิ้น) เป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ภายในนั้นมีแนวคิดสำคัญที่เรียกว่า “TP (Take Profit)” เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถล็อกกำไรจากการเทรดได้ บทความนี้จะอธิบายตั้งแต่พื้นฐานของ TP วิธีการตั้งค่า ไปจนถึงเทคนิควิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อใช้ TP อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้ว คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรในการเทรด FX ได้มากขึ้น
TP (Take Profit) คืออะไร?
TP (Take Profit) คือการปิดออเดอร์ที่อยู่ในกำไร เพื่อทำให้กำไรนั้นถูกล็อกไว้ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Take Profit” ส่วนในภาษาไทยมักเรียกว่า “ปิดทำกำไร” หรือ “ล็อกกำไร” การตั้ง TP จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและทำให้มั่นใจว่าสามารถเก็บกำไรได้จริง
วิธีตั้งค่า TP
โดยหลักแล้วมี 2 วิธีในการตั้ง TP คือ การใช้คำสั่งตลาด (Market Order) และคำสั่งรอดำเนินการ (Pending Order) หากใช้ Market Order จะเป็นการปิดออเดอร์ทันทีตามราคาตลาดปัจจุบัน ส่วน Pending Order จะเป็นการปิดอัตโนมัติเมื่อราคาแตะระดับที่กำหนดไว้ สำหรับเครื่องมือเทรดอัตโนมัติอย่าง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ก็สามารถตั้ง TP ได้ง่ายมาก จึงเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์
ความสำคัญของ TP & วิธีการตั้งค่าอย่างมีประสิทธิภาพ
การตั้งค่า TP มีความสำคัญในการกำหนดจังหวะการทำกำไร หากต้องการเพิ่มโอกาสทำกำไรสูงสุด การปิดออเดอร์ในเวลาที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้คือแนวทางที่ช่วยให้ตั้ง TP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จังหวะที่เหมาะสมในการทำกำไร
เวลาที่ดีที่สุดในการปิดทำกำไรจะแตกต่างกันไปตามสภาวะตลาดและสไตล์การเทรด หากเป็นสายเทรดระยะสั้น มักจะเน้นเก็บกำไรเล็ก ๆ หลายครั้ง แต่ถ้าเป็นสายเทรดระยะยาว จะถือออเดอร์นานเพื่อรอจังหวะทำกำไรใหญ่
การใช้วิเคราะห์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีคาดการณ์ทิศทางราคาจากข้อมูลราคาในอดีต ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถกำหนดจุดซื้อจุดขายและตั้ง TP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตั้ง TP ตามแนวรับ (Support) หรือแนวต้าน (Resistance)
การใช้ Trailing Stop
Trailing Stop คือฟีเจอร์ที่ช่วยขยับจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ตามกำไรที่เพิ่มขึ้น ช่วยล็อกกำไรได้แม้ตลาดจะกลับทิศกะทันหัน ด้วยการตั้งค่าแบบนี้ คุณยังคงได้กำไรแม้จะเกิดความผันผวนในตลาด
เปรียบเทียบ TP และ SL (Stop Loss)
SL (Stop Loss) มีความสำคัญไม่แพ้ TP โดย SL คือการตั้งค่าเพื่อปิดออเดอร์ที่ขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงการขาดทุน ในขณะที่ TP ใช้เพื่อเก็บกำไร SL ใช้เพื่อลดขาดทุน การบริหารความเสี่ยงที่ดีควรสร้างสมดุลระหว่างการเก็บกำไรและจำกัดการขาดทุน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
คำถามเกี่ยวกับการตั้ง TP
Q: จุดที่ดีที่สุดในการตั้ง TP อยู่ที่ไหน?
- A: จุด TP ควรตั้งตามสกุลเงินและสภาวะตลาด โดยทั่วไปนิยมตั้งที่จุดสูงสุดล่าสุดหรือแนวต้านที่ใกล้ที่สุด
Q: ตั้งค่า Trailing Stop อย่างไร?
- A: สามารถตั้งค่า Trailing Stop ได้ในเครื่องมือเทรดอัตโนมัติ จุด Stop จะขยับตามระยะกำไรที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ
ปัญหาที่ผู้ใช้พบบ่อย
- Q: หากราคายังคงขึ้นต่อหลังปิดทำกำไร จะทำอย่างไร?
- A: หากราคาขึ้นต่อหลังจากที่ปิดออเดอร์แล้ว ควรรักษากำไรที่ได้ตามแผน และนำผลลัพธ์ไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการเทรดครั้งต่อไป
สรุป
บทความนี้ได้อธิบายเกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐาน TP (Take Profit) วิธีการตั้งค่า และแนวทางการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ หากตั้ง TP ได้เหมาะสม จะสามารถล็อกกำไรและลดความเสี่ยงจากการเทรด FX ได้นำความรู้นี้ไปปรับใช้เพื่อสร้างผลกำไรที่มั่นคงในอนาคต
บทความที่เกี่ยวข้อง & แหล่งอ้างอิง
ผ่านลิงก์ด้านล่างนี้ คุณสามารถศึกษาความรู้เกี่ยวกับการเทรด FX เพิ่มเติมเพื่อเสริมความสำเร็จของคุณ
SL (Stop Loss) ใน FX คืออะไร? พื้นฐานและวิธีใช้เพื่อลดความเสี่ยง
บทความนี้อธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ SL (Stop Loss) ซึ่งเป็นวิธีจัดการความเสี่ยงในการเทรด FX ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีการตั้งค่า จนถึงกลยุทธ์การใช้ SL เพื่อลดความเสี่ยงและปกป้องเงินทุน รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความนี้
แหล่งอ้างอิง
